ยา PrEP (เพร็พ) คืออะไร
ยา PrEP ย่อมาจากคำว่า Pre-Exposure Prophylaxis คือ ยาต้านไวรัส HIV ที่พัฒนาขึ้นเพื่อใช้ใน ผู้ที่ยังไม่ติดเชื้อ แต่มีพฤติกรรมหรือไลฟ์สไตล์ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อ HIV เช่น การเปลี่ยนคู่นอนบ่อย การมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนักโดยไม่ป้องกัน หรือการใช้สารเสพติดชนิดฉีดร่วมกัน
จุดประสงค์หลักของ PrEP
จุดประสงค์ของยา PrEP คือเพื่อ ลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ HIV ก่อนที่จะเกิดการสัมผัสเชื้อ โดย PrEP ไม่ใช่วัคซีน แต่เป็นยาที่มีฤทธิ์ในการยับยั้งเชื้อ HIV ไม่ให้เพิ่มจำนวนหรือเกาะเซลล์เม็ดเลือดขาวหากเชื้อเข้าสู่ร่างกาย
การรับประทาน PrEP ต้องเป็นไปตามคำแนะนำของแพทย์
แม้ PrEP จะสามารถช่วยลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ HIV ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ก็ต้องใช้ อย่างถูกต้องและต่อเนื่อง ตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อให้เกิดผลลัพธ์สูงสุด และปลอดภัยต่อสุขภาพ
ไม่ควรใช้ PrEP โดยไม่ปรึกษาแพทย์
เนื่องจาก PrEP เป็นยาต้านไวรัสที่มีข้อบ่งใช้เฉพาะในผู้ที่ยังไม่ติดเชื้อ HIV การเริ่มใช้ยานี้ จำเป็นต้องได้รับการตรวจสุขภาพและตรวจหาเชื้อ HIV ก่อนเสมอ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีเชื้ออยู่ในร่างกาย และสามารถใช้ PrEP ได้อย่างปลอดภัย
PrEP ทำงานอย่างไรในร่างกาย
กลไกการทำงานของ PrEP
ยา PrEP ทำงานโดย ยับยั้งกระบวนการเพิ่มจำนวนของเชื้อ HIV ในร่างกาย หากเชื้อเข้าสู่กระแสเลือด ยาจะช่วยลดโอกาสที่เชื้อจะสามารถเกาะและแพร่กระจายเข้าสู่ เซลล์ CD4 ซึ่งเป็นเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดหนึ่งที่มีบทบาทสำคัญในระบบภูมิคุ้มกัน
ป้องกันเชื้อ HIV ได้ตั้งแต่ก่อนเชื้อจะมีโอกาสแพร่กระจาย
การที่ PrEP ออกฤทธิ์ก่อนเชื้อ HIV จะเข้าสู่เซลล์เป้าหมายได้ ถือเป็นการ ป้องกันเชิงรุก ที่มีประสิทธิภาพสูง โดยเฉพาะในผู้ที่มีความเสี่ยงสูงและได้รับยาอย่างสม่ำเสมอตามแพทย์สั่ง
ต้องรับประทานอย่างต่อเนื่องเพื่อผลลัพธ์สูงสุด
ประสิทธิภาพของ PrEP จะขึ้นอยู่กับ ความสม่ำเสมอในการรับประทานยา หากหยุดใช้หรือรับประทานไม่ต่อเนื่อง ระดับยาในกระแสเลือดอาจไม่เพียงพอในการป้องกันเชื้อ HIV ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทำไมต้องกินยา PrEP? ใครบ้างที่ควรเริ่มใช้
เหตุผลที่ควรเริ่มใช้ PrEP
แม้ว่าการใช้ถุงยางอนามัยจะยังคงเป็นวิธีป้องกันที่สำคัญ การใช้ยา PrEP เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ HIV โดยเฉพาะในผู้ที่ไม่สามารถป้องกันได้อย่างสม่ำเสมอ หรือมีพฤติกรรมที่มีความเสี่ยงสูง ยา PrEP ช่วยเพิ่มการป้องกันในระดับบุคคล และเป็นส่วนหนึ่งของแนวทางลดจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในระดับสังคม
จากรายงานในปี พ.ศ. 2561 พบว่าประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อ HIV ที่ยังมีชีวิตอยู่จำนวนกว่า 77,000 ราย และยังมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นทุกปี การมีทางเลือกในการป้องกันเช่น PrEP จึงมีบทบาทสำคัญในการควบคุมการแพร่ระบาด
กลุ่มคนที่เหมาะสมกับการใช้ PrEP
ยา PrEP เหมาะสำหรับผู้ที่ยังไม่ติดเชื้อ HIV แต่มีไลฟ์สไตล์ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น:
มีคู่นอนหลายคน หรือเปลี่ยนคู่นอนบ่อย
มีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนักโดยไม่ใช้ถุงยางอนามัย
มีคู่นอนที่ทราบว่าติดเชื้อ HIV อยู่แล้ว
ใช้สารเสพติดชนิดฉีด และมีการใช้เข็มร่วมกัน
มีปาร์ตี้หรือพฤติกรรมทางเพศที่มีความเสี่ยงสูง
หญิงที่วางแผนตั้งครรภ์แต่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ HIV
ผู้ที่มีพฤติกรรมข้างต้นควรเข้ารับการตรวจสุขภาพ และปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินความเหมาะสมก่อนเริ่มใช้ยา PrEP
PrEP ป้องกันการติดเชื้อไวรัส HIV ได้กี่เปอร์เซ็นต์ PrEP ป้องกัน HIV ได้กี่เปอร์เซ็นต์
ประสิทธิภาพของ PrEP จากการศึกษาทางการแพทย์
จากการศึกษาทางคลินิกหลายฉบับพบว่า การใช้ยา PrEP อย่าง ถูกต้องและสม่ำเสมอ สามารถลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ HIV ได้อย่างมีนัยสำคัญ:
ลดความเสี่ยงจาก การมีเพศสัมพันธ์ ได้มากกว่า 99%
ลดความเสี่ยงจาก การใช้สารเสพติดแบบฉีด ได้ประมาณ 70%
โดยเฉพาะในกลุ่มที่รับประทานยา PrEP ต่อเนื่องทุกวัน ไปอย่างน้อย 7 วันก่อนการมีความเสี่ยง จะมีระดับยาในร่างกายที่เพียงพอสำหรับการป้องกัน
PrEP ไม่สามารถป้องกันได้ 100%
แม้ PrEP จะมีประสิทธิภาพสูง แต่ยัง ไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อ HIV ได้ถึง 100% และไม่สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่น ๆ เช่น ซิฟิลิส หนองใน หรือเริม ดังนั้นจึงยังแนะนำให้ใช้ ถุงยางอนามัยร่วมด้วยเสมอ
ความแตกต่างระหว่าง ยา PEP และ ยา PrEP PrEP กับ PEP ต่างกันอย่างไร
ความหมายของ PrEP และ PEP
PrEP (Pre-Exposure Prophylaxis) คือยาต้านไวรัส HIV ที่ใช้เพื่อป้องกัน ก่อนเกิดความเสี่ยง เหมาะสำหรับผู้ที่ยังไม่ติดเชื้อ และมีพฤติกรรมที่มีความเสี่ยงสูงต่อการรับเชื้อ HIV
PEP (Post-Exposure Prophylaxis) คือยาต้านไวรัส HIV ที่ใช้ หลังเกิดความเสี่ยง เช่น การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน หรือถูกเข็มตำ โดยต้องเริ่มใช้ภายใน 72 ชั่วโมงหลังเหตุการณ์
ตารางเปรียบเทียบ PrEP กับ PEP
รายละเอียด
PrEP
PEP
ชื่อเต็ม
Pre-Exposure Prophylaxis
Post-Exposure Prophylaxis
ใช้เมื่อ
ก่อนเสี่ยง
หลังเสี่ยง
ระยะเวลาในการเริ่มใช้
ต้องใช้ต่อเนื่องก่อนความเสี่ยง
ภายใน 72 ชั่วโมงหลังเหตุการณ์
ระยะเวลาในการใช้ยา
ต่อเนื่อง (รายวันหรือเฉพาะช่วงเสี่ยง)
28 วันติดต่อกัน
เหมาะกับใคร
ผู้มีความเสี่ยงประจำ/ต่อเนื่อง
ผู้ที่มีเหตุการณ์ฉุกเฉินหรือเฉพาะครั้ง
ต้องมีการตรวจสุขภาพก่อนใช้
ใช่
ใช่
เข้าใจง่าย ๆ: PrEP ป้องกันก่อน, PEP ใช้เมื่อเกิดเหตุแล้ว
การใช้ PrEP เป็นการป้องกัน เชิงรุก สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงอย่างต่อเนื่อง ส่วน PEP เป็นการรับยาแบบ ฉุกเฉิน เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่อาจทำให้รับเชื้อ HIV แล้ว เช่น การถูกข่มขืน หรือมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ตั้งใจ
อ่านเพิ่มเติม : PEP ยาต้านไวรัส hiv แบบฉุกเฉิน คืออะไร แตกต่างกับ PrEP อย่างไร
ประเภทของยา PrEP มีอะไรบ้าง
รูปแบบของยา PrEP ที่ใช้ในปัจจุบัน
ยา PrEP มีให้เลือก 2 ประเภทหลัก เพื่อให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์และพฤติกรรมความเสี่ยงของผู้ใช้งานแต่ละคน ได้แก่ ยาเม็ดแบบรับประทาน และ ยาฉีดแบบระยะยาว
1. ยาเม็ดแบบรับประทาน (Oral PrEP)
แบ่งออกเป็น 2 รูปแบบการใช้งาน ได้แก่
Daily PrEP (แบบรับประทานทุกวัน)
รับประทานยา PrEP เป็นประจำทุกวัน ก่อนมีเพศสัมพันธ์ล่วงหน้า 7 วัน และกินต่อเนื่องทุกวัน จนกว่าจะหยุดมีเพศสัมพันธ์ และต้องกินต่อเนื่องอีก 7 วันหลังจากเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้าย
รับประทานยา PrEP เป็นประจำทุกวัน
ช่วยให้ระดับยาในเลือดและเนื้อเยื่อ คงที่ตลอดเวลา
เหมาะกับผู้ที่มีความเสี่ยงต่อเนื่อง เช่น มีเพศสัมพันธ์บ่อย หรือเปลี่ยนคู่นอนบ่อย
ข้อดี:
ป้องกันได้สูงสุดถึง 99% หากใช้อย่างถูกต้อง
ข้อควรระวัง:
ต้องรับประทานยา ในเวลาเดียวกันทุกวัน เพื่อรักษาระดับยาให้สม่ำเสมอ
On-Demand PrEP (แบบรับประทานเฉพาะช่วงเสี่ยง)
ในกรณีมีเพศสัมพันธ์ครั้งเดียวให้รับประทาน 2 เม็ด ในช่วงเวลา 2–24 ชั่วโมงก่อนมีเพศสัมพันธ์ เม็ดที่ 2 และเม็ดที่ 3 รับประทานต่อจากครั้งแรก เวลาเดียวกันวันละ 1 เม็ดอีดสองวัน
กรณีที่มีเพศสัมพันธ์ต่อเนื่อง ให้รับประทาน 2–24 ชั่วโมงก่อนมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก 2 เม็ด และทานต่อไปครั้งละ 1 เม็ดทุก 24 ชั่วโมง และ รับประทานจนกว่าจะมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้าย แล้วกินต่อเนื่องอีก 2 วัน
ในกรณีที่กิน 2 เม็ดแรกแล้วไม่มีเพศสัมพันธ์สามารถหยุดยาไม่ต้องกินต่อเนื่องในวันต่อๆไปได้
การรับประทาน On Demand PrEP อาจทำให้เกิดการสับสนในวิธีการได้ง่าย แนะนำให้เข้ามาพบแพทย์เพื่อปรึกษาก่อนการเริ่มยาเพื่อความปลอดภัย
ข้อดี:
เหมาะกับผู้ที่มีเพศสัมพันธ์ไม่บ่อย และสามารถวางแผนล่วงหน้าได้
ข้อห้าม:
ใช้ได้กับผู้มีเพศกำเนิดเป็นชายเท่านั้น
2. ยาฉีดแบบระยะยาว (Long-Acting Injectable PrEP)
เป็นการฉีดยา Cabotegravir ทุก 2 เดือน
ต้องรับการฉีดโดยแพทย์หรือบุคลากรทางการแพทย์
ข้อดี:
ลดความยุ่งยากจากการลืมกินยา
มีประสิทธิภาพ เทียบเท่ากับถึงดีกว่า PrEP แบบเม็ด
ข้อควรระวัง:
อาจมีอาการ บวม แดง หรือระคายเคืองบริเวณที่ฉีด
ต้องเข้ารับบริการตามนัด ทุก 2 เดือน
วิธีการใช้ยา PrEP ให้ได้ผลสูงสุดและปลอดภัย
1. ตรวจสุขภาพก่อนเริ่มใช้ยา
ก่อนจะเริ่มใช้ยา PrEP ผู้ใช้จำเป็นต้องเข้ารับการตรวจสุขภาพโดยแพทย์ ซึ่งจะประกอบด้วย:
แพทย์จะประเมินความเหมาะสมในการใช้ PrEP และวางแผนการรักษาให้ตรงกับไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้
2. รับประทานยาอย่างต่อเนื่อง
สำหรับการใช้แบบ Daily PrEP ผู้ใช้ควร:
รับประทานยาทุกวัน ในเวลาเดียวเคียงกัน
หลีกเลี่ยงการลืมหรือขาดยา เพื่อให้ระดับยาในกระแสเลือดมีประสิทธิภาพในการป้องกัน
สำหรับผู้ที่ใช้แบบ On-Demand PrEP ต้องปฏิบัติตามสูตร 2+1+1 อย่างเคร่งครัด และวางแผนล่วงหน้าก่อนการมีเพศสัมพันธ์
3. เข้ารับการตรวจติดตามผลทุก 3 เดือน
ผู้ใช้ PrEP ควรเข้ารับการตรวจสุขภาพกับแพทย์ ทุก 3 เดือน เพื่อติดตาม:
ผลการตรวจ HIV ซ้ำ
การทำงานของตับและไต
อาการข้างเคียงหรือผลกระทบจากยา (ถ้ามี)
การติดตามผลอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้สามารถใช้ยา PrEP ได้อย่างปลอดภัยและต่อเนื่อง
จะเริ่มกินยา PrEP ต้องทำอย่างไร ก่อนเริ่ม PrEP ต้องตรวจอะไรบ้าง
การใช้ PrEP ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เท่านั้น
การใช้ยา PrEP ไม่สามารถซื้อใช้เองได้ ต้องผ่านการประเมินและจ่ายยาโดยแพทย์ เพราะ PrEP เหมาะสำหรับผู้ที่ มีผลตรวจ HIV เป็นลบเท่านั้น
ขั้นตอนการตรวจเบื้องต้นก่อนเริ่มยา PrEP
ก่อนแพทย์จะสั่งจ่าย PrEP จำเป็นต้องมีการตรวจสุขภาพ ดังนี้:
1. ตรวจหาเชื้อ HIV
เพื่อตรวจยืนยันว่าผู้ใช้ ยังไม่ติดเชื้อ HIV
หากผลเป็นบวก ไม่สามารถใช้ PrEP ได้ ต้องเปลี่ยนเป็นแนวทางการรักษา HIV แทน
2. ตรวจหาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่น ๆ
เช่น หนองใน ซิฟิลิส เริม หรือไวรัสตับอักเสบ
เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีโรคแทรกซ้อนที่อาจมีผลต่อการใช้ยา
3. ตรวจการทำงานของไตและตับ
PrEP เป็นยาที่อาจส่งผลต่อการทำงานของไตในบางราย แพทย์จึงต้องประเมินค่าการทำงานของไต (eGFR) และการทำงานของตับก่อนเริ่มใช้
การจ่ายยาครั้งแรกและการติดตาม
แพทย์จะจ่ายยา PrEP ให้สำหรับการใช้ไม่เกิน 3 เดือน ต่อครั้ง
ก่อนรับยาเพิ่มทุกครั้ง ผู้ใช้ต้องกลับมาตรวจเลือดใหม่เพื่อประเมินสุขภาพ และยืนยันผล HIV เป็นลบอยู่เสมอ
ผลข้างเคียงของยา PrEP มีอะไรบ้าง
ยา PrEP มีความปลอดภัยสูงเมื่อใช้ภายใต้คำแนะนำแพทย์
โดยทั่วไป PrEP ถือเป็นยาที่มีความปลอดภัยสูง หากใช้ตามคำแนะนำของแพทย์และตรวจติดตามสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ อย่างไรก็ตาม ในช่วงแรกของการเริ่มยา ผู้ใช้บางรายอาจพบอาการไม่พึงประสงค์เล็กน้อย ซึ่งมักจะหายไปได้เองภายในไม่กี่วัน
อาการข้างเคียงที่พบบ่อยในช่วงเริ่มต้น
คลื่นไส้
เวียนศีรษะ
อ่อนเพลีย
ปวดหัวเล็กน้อย
ท้องอืดหรือแน่นท้อง
อาการเหล่านี้มักเกิดใน ช่วงสัปดาห์แรกของการเริ่มยา และจะดีขึ้นเมื่อร่างกายปรับตัวได้
อาการที่ควรพบแพทย์ทันที
แม้จะพบได้น้อย แต่หากมีอาการต่อไปนี้ควรรีบปรึกษาแพทย์:
ปัสสาวะผิดปกติ (เช่น ขัด, บ่อย, มีฟองมาก)
ตัวเหลือง ตาเหลือง
ปวดท้องด้านขวาบน
อ่อนเพลียผิดปกติหรือมีผื่นแพ้
การติดตามผลเพื่อความปลอดภัย
แพทย์จะติดตามผลการทำงานของ ไตและตับ อย่างต่อเนื่องในระหว่างการใช้ PrEP หากพบว่าค่าการทำงานของอวัยวะเหล่านี้ผิดปกติ อาจมีการปรับแนวทางการรักษาหรือหยุดใช้ยา
ต้องกินยา PrEP นานแค่ไหน?
ระยะเวลาเริ่มต้นที่แนะนำ
หากใช้ยา PrEP แบบ Daily PrEP (รับประทานทุกวัน) แนะนำให้เริ่มรับประทาน ล่วงหน้าอย่างน้อย 7 วันก่อนที่จะมีความเสี่ยง เพื่อให้ระดับยาในกระแสเลือดสูงพอสำหรับการป้องกันเชื้อ HIV อย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับผู้ที่ใช้แบบ On-Demand PrEP สามารถเริ่มรับประทานก่อนความเสี่ยงตามสูตร 2+1+1 ได้โดยไม่ต้องสะสมยา 7 วันล่วงหน้า
ต้องกิน PrEP ไปตลอดชีวิตหรือไม่?
ไม่จำเป็นต้องใช้ยา PrEP ตลอดชีวิต ผู้ใช้สามารถ หยุดยาได้หากไม่มีความเสี่ยง เช่น อยู่ในความสัมพันธ์ที่ปลอดภัย หรือหยุดพฤติกรรมเสี่ยงไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม ก่อนหยุดยา ควร:
ปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้ง
หยุดยา หลังจากไม่มีความเสี่ยงล่าสุดอย่างน้อย 28 วัน เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีเชื้อเข้าสู่ร่างกายในช่วงท้าย
กลับมาใช้ PrEP ใหม่ได้หรือไม่?
สามารถ กลับมาเริ่มใช้ PrEP ใหม่ได้ทุกเมื่อ หากกลับเข้าสู่สถานการณ์ที่มีความเสี่ยง โดยต้อง:
ตรวจเลือดและสุขภาพก่อนเริ่มยาใหม่
ทำตามขั้นตอนการเริ่มต้นเช่นเดิม
ลืมกินยา PrEP ทำยังไง?
หากลืมกิน PrEP แบบ Daily PrEP
หากลืมรับประทานยาในวันนั้น แต่นึกออกภายใน 6 ชั่วโมง ให้รีบทานทันที
ห้ามรับประทาน “สองเม็ดในครั้งเดียว” เพื่อชดเชยที่ลืม
หากลืมกินในสูตร On-Demand (2+1+1)
หากลืมเม็ดหลังจากมีเพศสัมพันธ์ (เม็ดที่ 2 หรือ 3) ให้ทานทันทีที่นึกได้
แต่ถ้าลืม มากกว่า 12 ชั่วโมง แนะนำให้ เริ่มสูตรใหม่ตั้งแต่ต้น ก่อนมีความเสี่ยงรอบถัดไป
ลืมเกิน 7 วัน ควรเริ่มนับใหม่
หากขาดยา นานเกิน 7 วัน แนะนำให้:
กลับไปเริ่มต้นการใช้ใหม่
ปรึกษาแพทย์ก่อนเริ่มยาอีกครั้ง
ตรวจ HIV และประเมินสุขภาพใหม่เพื่อความปลอดภัย
ยา PrEP ราคาเท่าไหร่ในปี 2568
ราคายา PrEP แบบเม็ด (30 เม็ด)
ราคาขึ้นอยู่กับยี่ห้อและสถานพยาบาลที่ให้บริการ
โดยทั่วไปมีช่วงราคาดังนี้:
รายการ
ราคาโดยประมาณ (บาท)
PrEP แบบเม็ด (30 เม็ด)
1,000 – 3,400 บาท
ค่าตรวจเลือดก่อนรับยา (PrEP Lab Test)
2,000 บาท
ราคานี้ไม่รวมค่าพบแพทย์ หรือค่าตรวจอื่น ๆ ที่อาจจำเป็น เช่น การตรวจตับ ไต หรือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่น ๆ
ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคายา
ยี่ห้อของยา (Generic หรือ Original)
สถานที่ให้บริการ (คลินิกเอกชน vs รพ.รัฐ)
โปรโมชั่นหรือสิทธิการรักษาที่ใช้ได้ เช่น บัตรทอง, ประกันสังคม
จำนวนยาที่ได้รับในแต่ละรอบ
ข้อแนะนำ
ผู้ที่สนใจใช้ PrEP ควรสอบถามราคาจริงจากสถานพยาบาลก่อนเข้ารับบริการ เพื่อวางแผนค่าใช้จ่ายได้ชัดเจนและเหมาะสม
กิน PrEP แล้วไม่ใช้ถุงยางได้ไหม?
PrEP ช่วยป้องกันเชื้อ HIV ได้ แต่ไม่ใช่ทั้งหมด
แม้ยา PrEP จะมีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันการติดเชื้อ HIV หากใช้ถูกต้องและสม่ำเสมอ แต่ก็ยัง ไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อ HIV ได้ 100% และไม่สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STIs) ชนิดอื่นได้เลย เช่น:
ถุงยางอนามัยยังจำเป็น
ถุงยางอนามัยยังคงเป็น แนวป้องกันแรก ที่สามารถป้องกันได้ทั้งเชื้อ HIV และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ชนิดอื่นร่วมด้วย การใช้ถุงยางพร้อมกับ PrEP จึงเป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุด
ข้อแนะนำ
หากมีเพศสัมพันธ์กับคู่ที่ไม่ทราบสถานะ HIV หรือไม่ใช่คู่ประจำ แนะนำให้:
ใช้ถุงยางอนามัยร่วมกับ PrEP เสมอ
เข้ารับการตรวจสุขภาพเป็นประจำทุก 3 เดือน
ใช้ PrEP ระหว่างตั้งครรภ์ได้ไหม
PrEP สามารถใช้ได้ในหญิงที่วางแผนมีบุตร
ผู้หญิงที่มีความเสี่ยงในการติดเชื้อ HIV และต้องการวางแผนตั้งครรภ์สามารถใช้ยา PrEP ได้อย่างปลอดภัย ภายใต้การดูแลของแพทย์ โดยเฉพาะในกรณีที่คู่นอนมีเชื้อ HIV หรือมีความเสี่ยงทางพฤติกรรมที่ชัดเจน
ปลอดภัยต่อทารกในครรภ์
จากข้อมูลทางการแพทย์ ยา PrEP (โดยเฉพาะสูตรที่ใช้ Tenofovir/Emtricitabine) มีข้อมูลสนับสนุนว่าสามารถใช้ระหว่างการตั้งครรภ์ได้โดยไม่เพิ่มความเสี่ยงต่อทารกในครรภ์
ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์
แม้จะสามารถใช้ได้อย่างปลอดภัย แต่ควร:
แจ้งแพทย์ทุกครั้งหากวางแผนจะตั้งครรภ์
ตรวจสุขภาพอย่างใกล้ชิดระหว่างตั้งครรภ์
ตรวจติดตามผลการทำงานของไตและตับ รวมถึงการตรวจ HIV ซ้ำตามกำหนด
PrEP คือวัคซีนหรือยา?
PrEP ไม่ใช่วัคซีน
PrEP เป็น ยา ไม่ใช่วัคซีน โดยมีหน้าที่หลักในการ ป้องกันไม่ให้เชื้อ HIV เกาะกับเซลล์เม็ดเลือดขาวในร่างกาย หากเกิดการสัมผัสเชื้อ ไม่ได้กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้สร้างภูมิต้านทานเหมือนวัคซีน
ความแตกต่างระหว่าง PrEP กับวัคซีน
ประเด็น
PrEP
วัคซีน
ประเภท
ยาต้านไวรัส
สารกระตุ้นภูมิคุ้มกัน
วิธีออกฤทธิ์
ป้องกันเชื้อไม่ให้เพิ่มจำนวนในร่างกาย
กระตุ้นร่างกายให้สร้างภูมิคุ้มกัน
ต้องกิน/ฉีดซ้ำ
ต้องใช้เป็นประจำ
ส่วนมากให้เพียงครั้งเดียวหรือปีละครั้ง
ต้องใช้ PrEP อย่างต่อเนื่อง
การใช้ PrEP ให้ได้ผล ต้องใช้ ต่อเนื่องอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะก่อนช่วงที่มีความเสี่ยง และหากจะหยุดยา ควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์ก่อนทุกครั้ง
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ PrEP
Q: PrEP เริ่มป้องกันได้เมื่อไหร่หลังเริ่มใช้?
A: หากใช้แบบ Daily PrEP ต้องรับประทานยาอย่างน้อย 7 วัน ก่อนมีความเสี่ยง ถึงจะมีระดับยาที่เพียงพอในการป้องกันเชื้อ HIV
Q: PrEP ใช้แล้วต้องตรวจ HIV บ่อยแค่ไหน?
A: ควรตรวจ ทุก 3 เดือน เพื่อประเมินประสิทธิภาพของยา และตรวจหาเชื้อซ้ำอย่างสม่ำเสมอ
Q: สามารถหยุด PrEP ชั่วคราวแล้วกลับมาใช้ใหม่ได้ไหม?
A: ได้ แต่ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเริ่มใหม่ทุกครั้ง และกลับไปตรวจเลือดเพื่อยืนยันว่าไม่มีเชื้อ HIV ก่อนเริ่มใช้ PrEP อีกครั้ง
Q: ใช้ PrEP แล้วดื่มแอลกอฮอล์ได้ไหม?
A: สามารถดื่มได้ในปริมาณปกติ PrEP ไม่เกิดปฏิกิริยากับแอลกอฮอล์โดยตรง แต่ไม่ควรลืมกินยาแม้ในวันที่ดื่ม
Q: ผู้หญิงใช้ PrEP ได้หรือไม่?
A: ได้ PrEP ใช้ได้ทั้งชายและหญิง รวมถึงผู้ที่กำลังวางแผนตั้งครรภ์ ภายใต้การดูแลของแพทย์
รีวิวจากผู้ใช้จริง: ประสบการณ์การกินยา PrEP
“เริ่มกิน PrEP เพราะเพื่อนแนะนำ แล้วรู้สึกอุ่นใจขึ้นมาก”
“ตอนแรกกลัวเรื่องผลข้างเคียงมาก แต่หมอก็อธิบายละเอียดว่ามีแค่คลื่นไส้เล็กน้อยช่วงแรกจริง ๆ พอผ่านสัปดาห์แรกไปก็ไม่มีอะไรเลย ตอนนี้กิน PrEP ทุกวันพร้อมวิตามิน แล้วรู้สึกอุ่นใจเวลาเจอคู่นอนใหม่ แม้จะยังใช้ถุงยางอยู่เสมอ”
“เคยลืมกินบ่อย แต่ปรับเวลาแล้วดีขึ้น”
“ผมใช้ Daily PrEP แต่ช่วงแรกลืมกินบ่อยมาก เพราะไม่ได้ตั้งเวลา พอลองใช้วิธีตั้งปลุกในมือถือทุกคืน ตอนนี้ไม่ลืมแล้ว แนะนำว่าใครที่กลัวลืม ควรหาวิธีที่ช่วยเตือนตัวเอง”
“ใช้แบบ On-Demand เพราะไม่ได้มีเพศสัมพันธ์บ่อย”
“ผมไม่ได้มีเพศสัมพันธ์เป็นประจำ เลยเลือกใช้แบบ 2+1+1 รู้สึกว่าควบคุมง่าย ไม่ต้องกินทุกวัน แต่ต้องวางแผนล่วงหน้าดี ๆ”
จะซื้อ PrEP ออนไลน์ได้ไหม? อันตรายไหม?
PrEP ไม่ควรซื้อใช้เองโดยไม่มีใบสั่งแพทย์
แม้ในบางเว็บไซต์จะมีการจำหน่าย PrEP แบบออนไลน์ แต่การใช้ยา PrEP ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เท่านั้น เพราะ:
ต้องตรวจ HIV ให้แน่ใจก่อนว่าไม่มีเชื้อ
ต้องตรวจสุขภาพโดยรวม โดยเฉพาะไตและตับ
ต้องติดตามผลการใช้ยาเป็นระยะ
การซื้อใช้เองโดยไม่ได้ตรวจสุขภาพ อาจ ทำให้ติดเชื้อ HIV โดยไม่รู้ตัว หรือได้รับยาที่ไม่ได้มาตรฐาน
ความเสี่ยงจากการซื้อ PrEP ออนไลน์
อาจได้รับยา ปลอม หรือหมดอายุ
ไม่สามารถยืนยันแหล่งผลิตหรือความน่าเชื่อถือของผู้ขาย
ไม่มีการแนะนำวิธีใช้หรือแนวทางติดตามผล
ข้อแนะนำ
หากต้องการใช้ PrEP อย่างปลอดภัย:
ควรเข้ารับการประเมินที่คลินิกหรือสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน
อย่าใช้ PrEP โดยไม่มีการตรวจเลือดก่อน
หลีกเลี่ยงการสั่งซื้อจากแหล่งที่ไม่สามารถตรวจสอบได้
PrEP ฟรีมีไหม? ใช้สิทธิอะไรได้บ้าง?
สามารถรับยา PrEP ฟรีได้ในบางกรณี
ในประเทศไทย มีโครงการของภาครัฐที่สนับสนุนการเข้าถึงยา PrEP ฟรี โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงสูง เช่น:
ชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย (MSM)
ผู้ใช้สารเสพติดชนิดฉีด
ผู้ที่มีคู่นอนติดเชื้อ HIV
เยาวชนกลุ่มเปราะบาง
สิทธิที่สามารถใช้ได้ในการขอรับ PrEP
ประเภทสิทธิ
เงื่อนไขการใช้สิทธิ
สิทธิหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (บัตรทอง)
บางโรงพยาบาลรัฐ/คลินิกที่เข้าร่วมโครงการ
ประกันสังคม
ขึ้นอยู่กับสถานพยาบาลเครือข่ายของผู้ประกันตน
คลินิกเฉพาะทาง
มีโครงการสนับสนุนเฉพาะกลุ่มฟรีหรือร่วมจ่ายบางส่วน
ข้อแนะนำ
สอบถามสิทธิกับหน่วยบริการใกล้บ้านหรือคลินิกที่สนใจ
เตรียมเอกสาร เช่น บัตรประชาชน หรือเอกสารแสดงสิทธิ
ตรวจสอบว่าอยู่ในกลุ่มเป้าหมายตามเกณฑ์ของโครงการหรือไม่
เปรียบเทียบยี่ห้อ PrEP ในไทย ปี 2568
ยี่ห้อที่ใช้ในประเทศไทย
ในประเทศไทย ปัจจุบันมีการใช้ยา PrEP จากทั้ง แบรนด์ต้นแบบ (Original Brand) และ ยาชื่อสามัญ (Generic) โดยทั้งหมดผ่านการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)
ตัวอย่างยี่ห้อที่พบได้ทั่วไป:
ยี่ห้อ
ประเภท
สารสำคัญในยา
หมายเหตุ
Truvada
ต้นแบบ (Original)
Tenofovir + Emtricitabine
ราคาสูงกว่า แต่มีข้อมูลวิจัยยาวนาน
Ricovir-EM
ชื่อสามัญ (Generic)
Tenofovir + Emtricitabine
ราคาย่อมเยา ใช้กันอย่างแพร่หลายในเอเชีย
Tenof-EM
ชื่อสามัญ (Generic)
Tenofovir + Emtricitabine
ราคาใกล้เคียงกับ Ricovir-EM
Teno-EM
ชื่อสามัญ (Generic)
Tenofovir + Emtricitabine
เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของยาชื่อสามัญ
ข้อควรพิจารณาในการเลือกยี่ห้อ
ความน่าเชื่อถือของแหล่งจัดหา: ควรรับยาเฉพาะจากคลินิกหรือสถานพยาบาลที่ได้รับอนุญาต
การรับรองจาก อย.: ยาทุกตัวต้องผ่านการตรวจสอบคุณภาพ
คำแนะนำของแพทย์: บางรายอาจเหมาะกับยี่ห้อใดมากกว่า ขึ้นอยู่กับปัจจัยทางสุขภาพ
บทสรุป
ยา PrEP เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพและผ่านการรับรองทางการแพทย์แล้วว่าสามารถลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ HIV ได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะเมื่อใช้ควบคู่กับการตรวจสุขภาพสม่ำเสมอและพฤติกรรมทางเพศที่มีความรับผิดชอบ
แม้ PrEP จะไม่สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ทุกชนิดได้ แต่ก็เป็นทางเลือกที่เพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง ทั้งยังเป็นส่วนหนึ่งของความรับผิดชอบต่อสุขภาพตนเองและสังคมโดยรวม
แหล่งข้อมูลที่เกี่ยวข้อง