Ricovir EM ราคา ยา PrEP ป้องกัน HIV สูตร FTC/TDF ปลอดภัย 2025

การป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี (HIV) ถือเป็นเรื่องสำคัญสำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงสูง และปัจจุบันการใช้ยา PrEP (Pre-Exposure Prophylaxis) ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุด Ricovir EM คือหนึ่งในยากลุ่ม PrEP ที่ได้รับความนิยม เพราะมีสูตรตัวยามาตรฐานที่ใช้ทั่วโลก ราคาเข้าถึงง่าย และอยู่ภายใต้แนวทางการรักษาที่เชื่อถือได้

บทความนี้จะพาคุณทำความรู้จัก Ricovir EM ตั้งแต่ข้อมูลพื้นฐาน การทำงาน ข้อดี ข้อควรระวัง ไปจนถึงประสบการณ์จริงของผู้ใช้ และขั้นตอนเริ่มต้นที่คลินิก เพื่อให้คุณมีข้อมูลครบก่อนตัดสินใจเริ่มใช้ PrEP

Ricovir EM (PrEP) คืออะไร

Ricovir EM คือยาสำหรับการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี หรือที่เรียกว่า PrEP (Pre-Exposure Prophylaxis) อยู่ในรูปแบบยาเม็ดที่รับประทานวันละครั้งตามแพทย์สั่ง

ตัวยาประกอบด้วย Emtricitabine (200 มก.) และ Tenofovir Disoproxil Fumarate (300 มก.) ซึ่งเป็นสูตรมาตรฐานที่ใช้แพร่หลายและได้รับการยอมรับในแนวทางเวชปฏิบัติทั่วโลก

ยานี้ผลิตโดยบริษัท Mylan และบรรจุอยู่ในแนวทางสากลจากองค์การอนามัยโลก (WHO), ศูนย์ควบคุมโรคสหรัฐฯ (CDC) รวมถึงแนวทางการป้องกันเอชไอวีของประเทศไทย ทำให้เป็นหนึ่งในยาที่แพทย์เลือกใช้บ่อยในการเริ่ม PrEP

ทำไมหลายคนเลือก Ricovir EM

Ricovir EM เป็นยากลุ่ม PrEP ที่ได้รับความนิยม เนื่องจากมีราคาที่เข้าถึงง่ายกว่ายี่ห้อออริจินัลอย่าง Truvada แต่ยังคงใช้สูตรตัวยามาตรฐานเดียวกัน คือ Emtricitabine ร่วมกับ Tenofovir Disoproxil Fumarate

นอกจากนี้ Ricovir EM ยังถูกแนะนำในแนวทางเวชปฏิบัติขององค์การอนามัยโลก (WHO) และศูนย์ควบคุมโรคสหรัฐฯ (CDC) ทำให้มั่นใจได้ว่ามีข้อมูลทางวิชาการรองรับการใช้งานมานานหลายปี

สำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มใช้ PrEP แบบต่อเนื่อง Ricovir EM ถือว่าเป็นทางเลือกที่คุ้มค่า เพราะช่วยให้สามารถใช้ยาป้องกันเอชไอวีได้ต่อเนื่องโดยไม่กระทบกับค่าใช้จ่ายมากเกินไป

Ricovir EM มีงานวิจัยอะไรสนับสนุน

Ricovir EM ใช้สูตรตัวยามาตรฐาน FTC/TDF ซึ่งมีข้อมูลวิจัยรองรับชัดเจนจากการศึกษาขนาดใหญ่ เช่น iPrEx, Partners PrEP และ PROUD study โดยงานวิจัยเหล่านี้ยืนยันว่าการใช้ PrEP อย่างสม่ำเสมอสามารถลดความเสี่ยงการติดเชื้อเอชไอวีได้มากกว่า 90%

องค์การอนามัยโลก (WHO) และศูนย์ควบคุมโรคสหรัฐฯ (CDC) จึงบรรจุ PrEP สูตรนี้ไว้ในแนวทางมาตรฐาน และประเทศไทยเองก็ใช้เป็นแนวทางเดียวกันในการป้องกันการแพร่เชื้อเอชไอวีในกลุ่มเสี่ยงสูง

ข้อมูลวิจัยเหล่านี้ช่วยยืนยันว่า Ricovir EM ไม่ได้เป็นเพียงแค่ยาที่เข้าถึงง่าย แต่ยังมีหลักฐานทางการแพทย์รองรับการใช้งานจริงในระยะยาว

ใครเหมาะกับ Ricovir EM

Ricovir EM เหมาะสำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อเอชไอวี เช่น ผู้ที่มีคู่นอนหลายคน หรือไม่ได้ใช้ถุงยางอนามัยอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงคู่ที่ฝ่ายหนึ่งมีเชื้อเอชไอวีและอีกฝ่ายไม่มี (serodiscordant couples)

นอกจากนี้ยังเหมาะกับผู้ที่ใช้สารเสพติดบางชนิดที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ และผู้ที่ต้องการความมั่นใจในการป้องกันเอชไอวีในระยะยาวภายใต้การดูแลของแพทย์

อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจเริ่มใช้ Ricovir EM ควรผ่านการประเมินสุขภาพและความเหมาะสมรายบุคคลโดยแพทย์ก่อนเสมอ

ก่อนเริ่ม Ricovir EM ต้องตรวจอะไรบ้าง

การเริ่มใช้ Ricovir EM จำเป็นต้องตรวจสุขภาพพื้นฐานเพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพของยา โดยแพทย์จะพิจารณาการตรวจดังนี้

• ตรวจเอชไอวี (HIV Test 4th Generation): เพื่อยืนยันว่าไม่มีการติดเชื้อมาก่อนเริ่ม PrEP
• ตรวจการทำงานของไต (eGFR/Creatinine): เพราะตัวยาอาจมีผลต่อการทำงานของไต
• ตรวจไวรัสตับอักเสบบี (HBV): เนื่องจากตัวยามีผลกับผู้ที่ติดเชื้อไวรัสตับบีเรื้อรัง
• ตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STI Screening): เช่น ซิฟิลิส หนองในแท้ หนองในเทียม ตามความเสี่ยงของแต่ละบุคคล
• การประเมินอื่น ๆ: เช่น การตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรในผู้หญิง เพื่อปรับการดูแลให้เหมาะสม

วิธีใช้ Ricovir EM ให้ได้ผล

การใช้ Ricovir EM ต้องรับประทานอย่างถูกวิธีและต่อเนื่องตามที่แพทย์แนะนำ เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพในการป้องกันเอชไอวีสูงสุด

Daily PrEP (การใช้ทุกวัน)

ควรรับประทานวันละครั้งในเวลาใกล้เคียงกันทุกวัน หากลืมทานภายใน 12 ชั่วโมง สามารถทานทันทีที่นึกได้ แต่หากเกินกว่านั้นให้ข้ามไปและทานเม็ดถัดไปตามเวลาปกติ ไม่ควรทานสองเม็ดพร้อมกัน

On-Demand PrEP (การใช้ตามความเสี่ยง)

เป็นวิธีที่อาจใช้ในบางกรณี เช่น การมีเพศสัมพันธ์ไม่สม่ำเสมอ โดยต้องทานยาก่อนและหลังมีความเสี่ยงตามสูตรที่แพทย์แนะนำ อย่างไรก็ตาม วิธีนี้ไม่เหมาะกับทุกคน และควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เท่านั้น

การติดตามผลหลังเริ่มใช้

ผู้ใช้ PrEP ต้องตรวจเอชไอวีซ้ำทุก 3 เดือน รวมถึงตรวจการทำงานของไตและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ตามความเหมาะสม เพื่อประเมินความปลอดภัยและความต่อเนื่องของการรักษา

ผลข้างเคียง & ความปลอดภัย

Ricovir EM จัดเป็นยาที่มีความปลอดภัยสูงและถูกใช้มาอย่างยาวนานในการป้องกันเอชไอวี ผลข้างเคียงที่พบส่วนใหญ่เป็นอาการเล็กน้อยและมักหายไปเองเมื่อใช้ยาต่อเนื่อง เช่น คลื่นไส้ ปวดศีรษะ หรือเวียนศีรษะเล็กน้อย

ในบางรายอาจมีผลต่อการทำงานของไตหรือความหนาแน่นของกระดูก จึงจำเป็นต้องมีการตรวจติดตามผลการทำงานของไตและตรวจสุขภาพตามแพทย์แนะนำอย่างสม่ำเสมอ

หากมีอาการผิดปกติรุนแรง เช่น ปัสสาวะน้อยลง เหนื่อยผิดปกติ หรือมีอาการแพ้ยา ควรหยุดใช้และพบแพทย์ทันทีเพื่อรับการประเมินเพิ่มเติม

Ricovir EM ต่างจากยี่ห้ออื่นยังไง

Ricovir EM มีสูตรตัวยามาตรฐานเดียวกับ Tenof EM และ Teno EM คือ Emtricitabine 200 มก. + Tenofovir Disoproxil Fumarate 300 มก. (FTC/TDF) ทำให้มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกัน ต่างกันที่ผู้ผลิตและราคา

เมื่อเทียบกับ Truvada (ยี่ห้อออริจินัล) Ricovir EM มีราคาที่เข้าถึงง่ายกว่า ในขณะที่ Descovy (FTC/TAF) และ TAF EM เป็นสูตรใหม่ที่อาจมีผลข้างเคียงต่อไตและกระดูกน้อยกว่า แต่ราคาสูงกว่าอย่างชัดเจน

ตารางเปรียบเทียบยี่ห้อ PrEP

Ricovir EM กินร่วมกับยาอื่น/ฮอร์โมนได้ไหม

โดยทั่วไป Ricovir EM สามารถใช้ร่วมกับยาส่วนใหญ่ รวมถึงยาฮอร์โมนเพศหรือฮอร์โมนข้ามเพศได้ โดยไม่พบว่ามีผลลดประสิทธิภาพซึ่งกันและกัน แต่ยังคงแนะนำให้แจ้งแพทย์เกี่ยวกับยาทุกชนิดที่ใช้อยู่ก่อนเริ่ม PrEP

สำหรับยาบางกลุ่ม เช่น ยาต้านไวรัสชนิดอื่น ยาต้านชักบางชนิด หรือยาที่มีผลต่อไต อาจต้องมีการปรับการรักษาหรือเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ดังนั้นจึงควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ร่วมกับยาอื่นเสมอ

การใช้ Ricovir EM ร่วมกับฮอร์โมนคุมกำเนิดหรือฮอร์โมนเพศข้ามเพศถือว่าปลอดภัย และมีข้อมูลวิจัยรองรับว่าไม่ทำให้ประสิทธิภาพของทั้ง PrEP และฮอร์โมนลดลง

Ricovir EM กับไลฟ์สไตล์ (แอลกอฮอล์/สารเสพติด)

ผู้ที่ใช้ Ricovir EM สามารถดื่มแอลกอฮอล์ได้ เพราะไม่พบปฏิกิริยาที่ลดประสิทธิภาพของยาโดยตรง แต่ควรดื่มในปริมาณที่เหมาะสม เนื่องจากการดื่มมากเกินไปอาจทำให้ลืมทานยาตามเวลา ซึ่งส่งผลต่อการป้องกันเอชไอวี

สำหรับการใช้สารเสพติด เช่น ยาเค หรือเมทแอมเฟตามีน แม้ไม่ได้มีปฏิกิริยาต่อ Ricovir EM โดยตรง แต่พฤติกรรมเสี่ยงที่มักเกิดร่วมกับการใช้สารเสพติด อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวีและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่น ๆ ได้

ดังนั้นการใช้ Ricovir EM ควรควบคู่กับการดูแลสุขภาพ การดื่มแอลกอฮอล์อย่างพอดี และการลดพฤติกรรมเสี่ยง เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดในการป้องกันเอชไอวี

ราคา Ricovir EM ที่ Safe Clinic

ที่ Safe Clinic ผู้ใช้สามารถเริ่มต้น PrEP ด้วย Ricovir EM ได้ในราคาที่เข้าถึงง่าย โดยแพ็กเกจมักรวมทั้งค่ายาและค่าตรวจสุขภาพพื้นฐานก่อนเริ่มใช้

แพ็กเกจ Ricovir EM

• ค่าบริการทางการแพทย์ 600 บาท
• ค่าตรวจเลือดก่อนเริ่มยา 2,000 บาท (ตรวจ HIV, Hepatitis B, BUN+Creatinine)
• ยา Ricovir EM ราคา 1,200 บาท (30 เม็ด / รับประทาน 1 เดือน)

ราคาก่อนเริ่มยา PrEP Ricovir EM ที่ Safe clinic รวม 3,800 บาท

หากสงสัยหรือต้องสอบถามข้อมูล สามารถสอบถามได้ทาง LINE @safeclinicbkk หรือ จองคิวออนไลน์

รีวิวประสบการณ์จริง: เริ่ม Ricovir EM ครั้งแรก

หลายคนที่เริ่มใช้ Ricovir EM เล่าว่าขั้นตอนการเริ่ม PrEP ไม่ซับซ้อน เพียงมาตรวจสุขภาพ ตรวจเอชไอวี และตรวจการทำงานของไต จากนั้นแพทย์จึงให้ยาพร้อมคำแนะนำเรื่องการรับประทานอย่างถูกวิธี

ผู้ใช้ส่วนใหญ่บอกว่าช่วงแรกอาจมีอาการเล็กน้อย เช่น คลื่นไส้หรือเวียนศีรษะ แต่หายไปเองในไม่กี่วัน และเมื่อใช้ต่อเนื่องก็ไม่มีปัญหาที่รบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน

ที่สำคัญ หลายคนรู้สึกอุ่นใจมากขึ้น เพราะ Ricovir EM ช่วยเสริมการป้องกันเอชไอวีได้จริงภายใต้การดูแลของแพทย์

FAQ: คำถามที่พบบ่อย

Ricovir EM ซื้อออนไลน์ได้ไหม

ในประเทศไทย ยา PrEP รวมถึง Ricovir EM ควรได้รับจากคลินิกหรือโรงพยาบาลภายใต้การดูแลของแพทย์เท่านั้น เพื่อให้มั่นใจว่ามีการตรวจสุขภาพและติดตามผลอย่างเหมาะสม

Ricovir EM ต้องทานทุกวันหรือไม่

โดยทั่วไปแนะนำให้ทานวันละครั้งเป็นประจำ (Daily PrEP) แต่บางกรณีแพทย์อาจพิจารณาการใช้แบบ On-Demand ขึ้นกับความเหมาะสมของผู้ใช้แต่ละราย

Ricovir EM ปลอดภัยแค่ไหน

จากข้อมูลการวิจัยและการใช้งานจริง ยานี้มีความปลอดภัยสูง ผลข้างเคียงที่พบส่วนใหญ่เป็นอาการเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม ควรมีการตรวจติดตามสุขภาพทุก 3 เดือนตามคำแนะนำแพทย์

ใช้ Ricovir EM แล้วต้องตรวจ HIV ซ้ำหรือไม่

ควรตรวจ HIV ทุก 3 เดือนเพื่อยืนยันว่าไม่มีการติดเชื้อ และเพื่อให้แพทย์ประเมินการใช้ยาต่อเนื่องอย่างปลอดภัย

บทสรุป

Ricovir EM เป็นยา PrEP ที่ใช้สูตรมาตรฐาน FTC/TDF มีงานวิจัยรองรับมากมาย และได้รับการบรรจุในแนวทางของ WHO, CDC และกระทรวงสาธารณสุขไทย จุดเด่นคือราคาเข้าถึงง่าย มีแพทย์ใช้กันอย่างแพร่หลาย และเหมาะกับผู้ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อเอชไอวี

อย่างไรก็ตาม การเริ่มใช้ PrEP ไม่ควรทำเอง ควรตรวจสุขภาพและปรึกษาแพทย์เพื่อวางแผนการใช้ที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล เพื่อให้มั่นใจทั้งด้านประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการป้องกันเอชไอวี

แหล่งอ้างอิง

1. WHO – Guidelines on HIV prevention, testing, treatment, service delivery and monitoring
2. CDC – PrEP (Pre-Exposure Prophylaxis)
3. Thailand brings PrEP to scale
4. PubMed – iPrEx Study (PrEP effectiveness trial)
5. PubMed – Partners PrEP Study

• Facebook
• Twitter
• Line