TAF EM เป็นหนึ่งในยากลุ่ม PrEP ที่ถูกพูดถึงมากขึ้นในปี 2025 เพราะเป็นสูตรเจนเนอริกของ Descovy ที่พัฒนาเพื่อลดผลกระทบต่อไตและกระดูกเมื่อเทียบกับ Truvada ทำให้หลายคนที่ต้องการใช้ PrEP แบบกินทุกวันเริ่มหันมาให้ความสนใจ
อย่างไรก็ตาม TAF EM ไม่ได้เหมาะกับทุกคน โดยเฉพาะผู้หญิงที่มีเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอดแบบรับซึ่งยังไม่มีข้อมูลยืนยันประสิทธิภาพ การเลือกใช้ยาจึงควรอ้างอิงจากสุขภาพ ความเสี่ยง และคำแนะนำของแพทย์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและเหมาะสมที่สุดสำหรับแต่ละบุคคล
TAF EM คือยาสูตรผสมระหว่าง Emtricitabine และ Tenofovir Alafenamide (FTC/TAF) ซึ่งอยู่ในกลุ่มยาต้านไวรัส ใช้สำหรับการป้องกันการติดเชื้อ HIV แบบ PrEP โดยรับประทานวันละ 1 เม็ดอย่างสม่ำเสมอ ยานี้มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับ Descovy เพราะใช้ตัวยาเดียวกัน แต่ต่างจาก Truvada ซึ่งเป็นสูตร FTC/TDF
ความแตกต่างที่สำคัญ คือ TAF EM และ Descovy มีแนวโน้มกระทบต่อไตและกระดูกน้อยกว่า Truvada แต่ต้องมีการติดตามไขมันในเลือดและน้ำหนักตัว เนื่องจากงานวิจัยบางส่วนพบว่าค่าไขมันอาจสูงขึ้นเล็กน้อย ข้อจำกัดที่ต้องรู้คือ TAF EM ยังไม่ได้รับการอนุมัติสำหรับการป้องกัน HIV ผ่านเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอด แต่ใช้ได้ผลดีในกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย (MSM) และหญิงข้ามเพศ (TGW)
TAF EM ยังไม่ได้รับการอนุมัติสำหรับการป้องกัน HIV ในผู้หญิงที่มีเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอดแบบรับ (receptive vaginal sex) เนื่องจากยังไม่มีข้อมูลการศึกษาที่เพียงพอในกลุ่มนี้ จึงไม่แนะนำให้ใช้เป็นทางเลือกหลักสำหรับผู้หญิงซิสเจนเดอร์ที่มีเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอด
อย่างไรก็ตาม TAF EM สามารถใช้ได้กับผู้ชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย (MSM) และหญิงข้ามเพศ (TGW) ที่มีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก โดยมีประสิทธิภาพในการป้องกัน HIV เทียบเท่ากับสูตร TDF/FTC หากรับประทานสม่ำเสมอทุกวัน ผู้หญิงที่ต้องการ PrEP ควรปรึกษาแพทย์เพื่อพิจารณาสูตรที่เหมาะสม เช่น TDF/FTC หรือ PrEP แบบฉีด (Cabotegravir)
TAF EM และ Descovy มีแนวโน้มกระทบต่อการทำงานของไตและความหนาแน่นกระดูกน้อยกว่า Truvada เพราะตัวยา Tenofovir Alafenamide (TAF) ดูดซึมเข้าสู่เซลล์ได้ตรงจุดมากกว่า ทำให้ใช้ปริมาณยาน้อยและลดการสะสมในไตและกระดูก
อย่างไรก็ตาม การใช้ TAF EM อาจมีความสัมพันธ์กับการเพิ่มขึ้นของระดับไขมันในเลือดและน้ำหนักตัวเล็กน้อย ซึ่งต่างจาก Truvada ที่มีผลข้างเคียงนี้น้อยกว่า ดังนั้นการเลือกใช้ควรอิงกับสุขภาพโดยรวม ปัญหาด้านไต กระดูก หรือไขมัน และการปรึกษาแพทย์เป็นสิ่งสำคัญก่อนตัดสินใจเลือกสูตรยา
TAF EM เหมาะสำหรับผู้ชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย (MSM) และหญิงข้ามเพศ (TGW) ที่มีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก รวมถึงผู้ที่มีปัญหาสุขภาพไตเล็กน้อย (eGFR ≥30 mL/min) หรือผู้ที่กังวลเรื่องกระดูกบาง ซึ่งอาจไม่เหมาะกับการใช้สูตรที่มี Tenofovir Disoproxil Fumarate (TDF) เช่น Truvada
ในทางกลับกัน TAF EM ยังไม่แนะนำสำหรับผู้หญิงซิสเจนเดอร์ที่มีเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอดแบบรับ เพราะยังไม่มีข้อมูลการศึกษาเพียงพอ และไม่ควรใช้แบบสูตร 2-1-1 เนื่องจากยังไม่มีการยืนยันประสิทธิผล หากผู้ป่วยมีค่า eGFR <30 mL/min หรือมีข้อห้ามอื่น ๆ ควรพิจารณา PrEP ทางเลือก เช่น TDF/FTC หรือ Cabotegravir แบบฉีดตามคำแนะนำแพทย์
TAF EM มีประสิทธิภาพในการป้องกัน HIV เทียบเท่ากับสูตร TDF/FTC (Truvada) เมื่อรับประทานทุกวันอย่างสม่ำเสมอ โดยงานวิจัยระดับนานาชาติ เช่น DISCOVER study แสดงให้เห็นว่า TAF EM ให้การป้องกันที่มีประสิทธิผลสูงในกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย (MSM) และหญิงข้ามเพศ (TGW)
อย่างไรก็ตาม ประสิทธิภาพของ TAF EM ยังไม่มีข้อมูลที่เพียงพอสำหรับการป้องกันการติดเชื้อ HIV ผ่านเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอดแบบรับ ดังนั้น ผู้หญิงซิสเจนเดอร์ที่ต้องการ PrEP ควรเลือกใช้สูตรที่ผ่านการรับรอง เช่น TDF/FTC หรือ PrEP แบบฉีด เพื่อให้การป้องกันมีประสิทธิภาพสูงสุดตามคำแนะนำแพทย์
TAF EM ต้องใช้แบบ Daily PrEP เท่านั้น คือรับประทานวันละ 1 เม็ดอย่างต่อเนื่องทุกวัน เพื่อให้ระดับยาคงที่ในร่างกายและป้องกันเชื้อ HIV ได้เต็มประสิทธิภาพ หากลืมรับประทาน ควรกินทันทีที่นึกได้ แต่ไม่ควรกินเกินวันละ 1 เม็ด
ในปัจจุบัน TAF EM ยังไม่แนะนำให้ใช้สูตร on-demand หรือ 2-1-1 เนื่องจากยังไม่มีข้อมูลยืนยันประสิทธิผล สูตร 2-1-1 ได้รับการศึกษาและรับรองเฉพาะกับ TDF/FTC เท่านั้น ดังนั้น ผู้ที่เลือกใช้ TAF EM ควรใช้ในรูปแบบ Daily อย่างเดียวเพื่อให้ได้ผลสูงสุด
TAF EM โดยทั่วไปถือว่าทนได้ดีและมีผลข้างเคียงไม่รุนแรงในผู้ใช้ส่วนใหญ่ อาการที่อาจพบได้ เช่น คลื่นไส้ ปวดศีรษะ หรืออาการอ่อนเพลียเล็กน้อย ซึ่งมักหายไปเองเมื่อร่างกายปรับตัวกับยา
ข้อดีของ TAF EM คือมีผลกระทบต่อการทำงานของไตและกระดูกน้อยกว่าสูตร TDF/FTC แต่ในบางรายอาจพบการเปลี่ยนแปลงของระดับไขมันในเลือดและน้ำหนักตัวเล็กน้อย แนะนำให้ตรวจสุขภาพและติดตามผลเลือดตามที่แพทย์กำหนด เพื่อให้การใช้ยาเป็นไปอย่างปลอดภัยที่สุด
การใช้ TAF EM อาจสัมพันธ์กับการเพิ่มขึ้นของน้ำหนักและระดับไขมันในเลือดเล็กน้อย เมื่อเทียบกับผู้ใช้สูตร TDF/FTC งานวิจัยบางชิ้นพบว่าผู้ใช้ TAF EM มีแนวโน้มค่าคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์สูงขึ้น รวมถึงน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นในบางราย
แม้ผลกระทบนี้มักไม่รุนแรง แต่ควรได้รับการติดตามตรวจระดับไขมันและน้ำหนักเป็นระยะ โดยเฉพาะในผู้ที่มีประวัติโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง หรือมีภาวะเมตาบอลิกซินโดรม เพื่อให้การใช้ PrEP ปลอดภัยและเหมาะสมกับสุขภาพของแต่ละบุคคล
ก่อนเริ่มใช้ TAF EM ต้องตรวจเลือดยืนยันว่าไม่ติดเชื้อ HIV และตรวจการทำงานของไต รวมถึงการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี (HBV) เนื่องจากหากมี HBV การหยุดยาเองอาจกระตุ้นให้ไวรัสกำเริบได้
ระหว่างการใช้ TAF EM แนะนำให้ตรวจ HIV ทุก 3 เดือน พร้อมติดตามการทำงานของไต และตรวจระดับไขมันในเลือดเป็นระยะ โดยเฉพาะในผู้ที่มีความเสี่ยงโรคหัวใจหรือความผิดปกติด้านเมตาบอลิก เพื่อให้มั่นใจว่าการใช้ PrEP มีความปลอดภัยและเหมาะสมต่อสุขภาพในระยะยาว
การใช้ TAF EM ไม่มีผลต่อระดับฮอร์โมนของหญิงข้ามเพศ (TGW) อย่างมีนัยสำคัญ งานวิจัยที่ทำในประเทศไทยพบว่า การใช้ PrEP สูตรนี้ร่วมกับฮอร์โมนเพศหญิงไม่ได้ลดประสิทธิภาพของทั้งสองฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นการป้องกัน HIV หรือการคงระดับฮอร์โมนในเลือด
ดังนั้น หญิงข้ามเพศที่ต้องการป้องกัน HIV สามารถใช้ TAF EM ควบคู่กับฮอร์โมนได้อย่างมั่นใจ แต่ควรติดตามสุขภาพกับแพทย์อย่างสม่ำเสมอ เพื่อปรับยาและตรวจเลือดตามความเหมาะสมของแต่ละบุคคล
TAF EM อาจมีปฏิกิริยากับยาบางชนิดที่ทำให้ระดับยาในเลือดลดลงหรือลดประสิทธิภาพการป้องกัน HIV โดยเฉพาะยาที่เป็นตัวกระตุ้นเอนไซม์ P-gp เช่น rifampin, rifabutin, carbamazepine, phenytoin, phenobarbital ซึ่งควรหลีกเลี่ยงการใช้ร่วมกัน
นอกจากนี้ ควรใช้ด้วยความระมัดระวังกับยาที่มีผลต่อไต เช่น ยาแก้อักเสบกลุ่ม NSAIDs ขนาดสูง หรือยาปฏิชีวนะบางชนิด การแจ้งแพทย์และเภสัชกรเกี่ยวกับยาทั้งหมดที่ใช้อยู่ รวมถึงอาหารเสริมและสมุนไพร จะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดปฏิกิริยาระหว่างยาได้อย่างปลอดภัย
TAF EM มีตัวยาสูตรเดียวกับ Descovy (FTC/TAF) ต่างกันที่เป็นเวอร์ชันเจนเนอริก ทำให้ราคาย่อมเยากว่า ส่วน Tenof EM และ Ricovir EM เป็นสูตร TDF/FTC ซึ่งเป็นเจนเนอริกของ Truvada
จุดเด่นของ TAF EM และ Descovy คือผลกระทบต่อไตและกระดูกน้อยกว่า TDF/FTC แต่มีข้อสังเกตเรื่องน้ำหนักและไขมันที่อาจเพิ่มขึ้น ในทางกลับกัน TDF/FTC มีข้อมูลการใช้ที่กว้างกว่า รวมถึงสามารถใช้สูตร 2-1-1 ได้ในผู้ชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย ดังนั้นการเลือกใช้ควรอิงจากสุขภาพ ความเหมาะสม และคำแนะนำของแพทย์เป็นหลัก
หาก TAF EM ไม่เหมาะ ยังมีทางเลือกอื่นในการใช้ PrEP ที่ได้รับการยอมรับ ได้แก่สูตร TDF/FTC (เช่น Truvada, Tenof EM, Ricovir EM) ซึ่งใช้ได้ทั้งในผู้ชาย ผู้หญิง และสามารถใช้แบบ 2-1-1 ได้ในผู้ชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย (MSM)
อีกหนึ่งทางเลือกคือ Cabotegravir แบบฉีด (Apretude) ฉีดทุก 2 เดือน เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่สะดวกกินยาเม็ดทุกวัน หรือมีข้อจำกัดด้านสุขภาพไต ทั้งนี้ ควรเลือกสูตร PrEP ที่สอดคล้องกับพฤติกรรมสุขภาพและการประเมินจากแพทย์ เพื่อให้การป้องกัน HIV มีประสิทธิภาพสูงสุดและปลอดภัยในระยะยาว
การเริ่มใช้ TAF EM ที่ Safe Clinic จะมีขั้นตอนตรวจและประเมินสุขภาพโดยทีมแพทย์ก่อนเสมอ เริ่มจากการตรวจเลือดยืนยันว่าไม่ติดเชื้อ HIV ตรวจการทำงานของไต และตรวจหาเชื้อไวรัสตับอักเสบบี (HBV) เพื่อความปลอดภัยในการใช้ยา
หลังจากนั้น แพทย์จะอธิบายวิธีการรับประทาน TAF EM แบบ Daily รวมถึงการนัดตรวจติดตามทุก 3 เดือนเพื่อตรวจ HIV ซ้ำ และตรวจเลือดที่จำเป็น ผู้ที่ผ่านการประเมินสามารถรับยากลับไปใช้ได้ทันที พร้อมคำแนะนำเรื่องการดูแลสุขภาพและการใช้ PrEP อย่างถูกต้อง
TAF EM ที่ Bangkok Safe Clinic มีราคาเริ่มต้น 1,800 บาท สำหรับ 30 เม็ด (ใช้นาน 1 เดือน) เหมาะกับผู้ที่ต้องการเริ่ม PrEP แบบ Daily และต้องการการดูแลจากทีมแพทย์อย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ยังมีแพ็กเกจรวมค่าตรวจเลือดและค่าปรึกษาแพทย์ เพื่อความสะดวกและคุ้มค่าในการติดตามผลต่อเนื่อง
ผู้ที่สนใจสามารถนัดหมายเพื่อรับคำปรึกษา ตรวจเลือด และรับยาได้ในครั้งเดียว ผ่านการ จองคิวออนไลน์ หรือช่องทางติดต่อของคลินิก ทีมแพทย์จะช่วยเลือกสูตร PrEP ที่เหมาะสมและวางแผนการดูแลรายบุคคล เพื่อให้การป้องกัน HIV มีประสิทธิภาพสูงสุดและเหมาะกับสุขภาพของคุณ
TAF EM เหมาะสำหรับผู้ชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย (MSM) และหญิงข้ามเพศ (TGW) แต่ยังไม่มีข้อมูลเพียงพอสำหรับการป้องกัน HIV ผ่านเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอดแบบรับ จึงไม่แนะนำให้ใช้ในผู้หญิงซิสเจนเดอร์ที่มีเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอด
สาเหตุคือ ยังไม่มีการศึกษาทางคลินิกยืนยันประสิทธิภาพของ TAF EM ในการป้องกัน HIV ทางช่องคลอด ดังนั้นผู้หญิงที่มีความเสี่ยงควรใช้สูตร TDF/FTC (Truvada หรือเจนเนอริก) หรือ PrEP แบบฉีดแทน
สำหรับ TAF EM ควรใช้ต่อเนื่องทุกวันอย่างน้อย 7 วัน เพื่อให้ระดับยาในร่างกายถึงจุดที่ป้องกัน HIV ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะสำหรับการป้องกันทางเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก
หากลืมกิน ให้รับประทานทันทีที่นึกได้ แต่หากใกล้ถึงเวลาของมื้อถัดไปแล้ว ไม่ควรกินซ้ำสอง ให้กินเพียงเม็ดเดียว และพยายามรักษาการใช้ยาให้สม่ำเสมอทุกวัน
แนะนำให้ตรวจ HIV ทุก 3 เดือน และพบแพทย์เพื่อติดตามสุขภาพ รวมถึงการตรวจเลือดสำหรับการทำงานของไต ระดับไขมัน และการประเมินความเสี่ยงการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์อื่น ๆ
ไม่สามารถใช้แทนได้ TAF EM ใช้เพื่อการป้องกัน (PrEP) เท่านั้น ไม่ใช่ยารักษาสำหรับผู้ที่ติดเชื้อ HIV หากตรวจพบเชื้อ ต้องใช้สูตรยาต้านไวรัสสำหรับการรักษาตามแนวทางทางการแพทย์
สามารถดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณพอเหมาะระหว่างใช้ TAF EM ได้ โดยทั่วไปไม่พบการโต้ตอบระหว่างยาและแอลกอฮอล์ แต่ควรเลี่ยงการดื่มหนักเกินไปเพื่อลดผลเสียต่อสุขภาพตับและไต
สามารถใช้ได้ แต่ ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ เพราะหากหยุดยาเองโดยไม่มีการควบคุม อาจเกิดการกำเริบของไวรัสตับอักเสบบี (HBV flare) จำเป็นต้องตรวจติดตามอย่างใกล้ชิด
TAF EM ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของ PrEP ที่มีจุดเด่นด้านการลดผลกระทบต่อไตและกระดูก และเหมาะกับกลุ่ม MSM และหญิงข้ามเพศที่ต้องการการป้องกันแบบ Daily แต่ยังมีข้อจำกัดสำหรับการใช้ในผู้หญิงที่มีเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอด รวมถึงต้องติดตามเรื่องไขมันและน้ำหนัก
ดังนั้น การตัดสินใจใช้ TAF EM ควรอยู่บนพื้นฐานของการปรึกษาแพทย์ ตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ และเลือกสูตร PrEP ที่ตรงกับพฤติกรรมและความเสี่ยงของแต่ละคน เพื่อให้การป้องกัน HIV มีประสิทธิภาพสูงสุดและปลอดภัยในระยะยาว
หากต้องการนัดหมายเข้ารับบริการหรือต้องการปรึกษาเพิ่มเติม
สามารถจองคิวผ่านเว็บไซต์ หรือ Inbox ทางช่องทาง Social Media ต่างๆ ได้ด้านล่างนี้