ในยุคที่การป้องกัน HIV ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การใช้ถุงยางอนามัยอีกต่อไป “ยา PrEP (Pre-Exposure Prophylaxis)” กลายเป็นหนึ่งในทางเลือกสำคัญของคนรุ่นใหม่ที่ต้องการปกป้องตัวเองอย่างมั่นใจและควบคุมได้
ปัจจุบันมี ยา PrEP หลายยี่ห้อในไทย เช่น Tenof EM, Ricovir EM, TAF EM, Descovy และ Truvada แต่ละสูตรมีข้อดีและความเหมาะสมต่างกัน ขึ้นอยู่กับสุขภาพของแต่ละคน เช่น การทำงานของไต งบประมาณ หรือความสะดวกในการใช้ยา
บทความนี้รวบรวมข้อมูลเปรียบเทียบ PrEP ทั้ง 6 ยี่ห้อดังในปี 2025 เพื่อช่วยให้คุณเข้าใจความแตกต่างของแต่ละสูตร และเลือกใช้ได้อย่างปลอดภัยภายใต้คำแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจาก Safe Clinic
PrEP ย่อมาจาก Pre-Exposure Prophylaxis หมายถึง “การใช้ยาต้านไวรัสก่อนมีความเสี่ยงต่อการรับเชื้อ HIV” เพื่อช่วยลดโอกาสการติดเชื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพเมื่อใช้ต่อเนื่องและถูกวิธี โดยแพทย์จะเป็นผู้ประเมินว่าผู้ใช้เหมาะกับสูตรใด
ยา PrEP มีหลายยี่ห้อเพราะแต่ละบริษัทใช้สารออกฤทธิ์หลักคล้ายกัน เช่น Tenofovir และ Emtricitabine แต่ต่างกันที่สูตรยา ความแรง และเทคโนโลยีของสาร (TDF หรือ TAF) ส่งผลต่อความเหมาะสมของแต่ละคน เช่น ผู้มีปัญหาไตหรือต้องการลดผลข้างเคียงอาจเลือกสูตรใหม่ที่อ่อนโยนกว่า
ปัจจุบันในประเทศไทยมีทั้งยา PrEP แบบเม็ดและแบบฉีด เพื่อให้ผู้ใช้เลือกตามความสะดวกและคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพทางเพศ
ปี 2025 ถือเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านสำคัญของยา PrEP เพราะมีการพัฒนา “สูตรใหม่” ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกและลดผลข้างเคียงจากรุ่นเดิม สูตรที่ได้รับความสนใจมากคือ TAF-based PrEP (Tenofovir Alafenamide) ซึ่งใช้ขนาดยาน้อยกว่าและอ่อนโยนต่อไตและกระดูกมากขึ้น
นอกจากนี้ยังมี PrEP แบบฉีด (Cabotegravir) ที่สามารถฉีดทุก 2 เดือน เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่สะดวกกินยาทุกวัน สูตรนี้ได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลกและเริ่มมีให้บริการในบางคลินิกในไทย
แนวโน้มในปี 2025 มุ่งเน้นให้ผู้ใช้มีทางเลือกที่หลากหลาย ทั้งในแง่ “ความถี่ในการใช้” และ “ความเหมาะสมกับสุขภาพ” เพื่อให้การป้องกัน HIV มีประสิทธิภาพและยั่งยืนมากขึ้น
ยา PrEP ส่วนใหญ่มีส่วนผสมหลักสองชนิดคือ Tenofovir และ Emtricitabine แต่จะต่างกันที่รูปแบบของ Tenofovir ซึ่งแบ่งเป็นสองสูตรคือ TDF (Tenofovir Disoproxil Fumarate) และ TAF (Tenofovir Alafenamide)
สูตร TDF ใช้มานาน มีประสิทธิภาพดีและราคาย่อมเยา เหมาะกับผู้ที่มีสุขภาพไตแข็งแรง ส่วนสูตร TAF เป็นรุ่นใหม่ ใช้ขนาดยาน้อยกว่าและส่งผลต่อไตและกระดูกน้อยกว่า จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการลดผลข้างเคียงระยะยาว
ทั้งสองสูตรได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ว่าป้องกันการติดเชื้อ HIV ได้ หากใช้อย่างต่อเนื่องและภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
ยา PrEP ในปัจจุบันมีหลายยี่ห้อให้เลือก ซึ่งแต่ละสูตรมีสารออกฤทธิ์หลักคล้ายกัน แต่ต่างกันที่เทคโนโลยีของยา ความแรง ราคา และความเหมาะสมกับสุขภาพของแต่ละคน ตารางนี้ช่วยให้เห็นภาพรวมได้ชัดเจนก่อนปรึกษาแพทย์เพื่อเลือกใช้
|
ยี่ห้อ |
สูตรยา |
สารออกฤทธิ์ |
จุดเด่น |
เหมาะกับใคร |
|---|---|---|---|---|
|
Tenof EM |
TDF-based |
Emtricitabine + Tenofovir (TDF) |
ราคาเข้าถึงง่าย ใช้แพร่หลายจาก Camber |
ผู้เริ่มใช้ PrEP ที่ไม่มีปัญหาค่าไต |
|
Ricovir EM |
TDF-based |
Emtricitabine + Tenofovir (TDF) |
เจเนอริกคุณภาพดีจาก Mylan |
ผู้เริ่มใช้ PrEP ที่ไม่มีปัญหาค่าไต |
|
Teno EM |
TDF-based |
Emtricitabine + Tenofovir (TDF) |
สูตรเทียบเท่า Truvada |
ผู้เริ่มใช้ PrEP ที่ไม่มีปัญหาค่าไต |
|
TAF EM |
TAF-based |
Emtricitabine + Tenofovir (TAF) |
อ่อนโยนต่อไตและกระดูก |
คนมีค่าไตต่ำ |
|
Descovy |
TAF-based |
Emtricitabine + Tenofovir (TAF) |
แบรนด์ต้นตำรับจาก Gilead |
ผู้ต้องการลดผลข้างเคียง |
|
Truvada |
TDF-based |
Emtricitabine + Tenofovir (TDF) |
ผ่านการวิจัยมากที่สุดทั่วโลก |
ผู้ใช้ PrEP ไม่มีปัญหาค่าไต อยากใช้ยา Original |
ควรเลือกสูตรที่เหมาะกับสุขภาพและงบประมาณ โดยปรึกษาแพทย์ก่อนเริ่มใช้ทุกครั้ง
ในชีวิตจริง ความแตกต่างของยา PrEP แต่ละยี่ห้อไม่ได้อยู่แค่ชื่อหรือผู้ผลิต แต่ขึ้นอยู่กับ “ประสบการณ์การใช้” และ “ความเหมาะสมของร่างกายแต่ละคน” ด้วย สูตรที่ใช้ TDF เช่น Tenof หรือ Truvada มักให้ผลคงที่และราคาคุ้มค่า ส่วนสูตรที่ใช้ TAF เช่น Descovy หรือ TAF EM จะอ่อนโยนต่อไตและกระดูก เหมาะกับผู้ที่ต้องการลดผลข้างเคียงระยะยาว
บางคนเลือกตาม “ความสะดวกและความถี่ในการตรวจติดตาม” เช่น ผู้ที่ต้องการทางเลือกใหม่อาจสนใจ PrEP แบบฉีด (Cabotegravir) ที่ใช้ทุก 2 เดือนแทนการกินทุกวัน ทั้งนี้ไม่ว่ารุ่นไหนจะดี ต้องอยู่ภายใต้การประเมินของแพทย์เสมอ
การเลือกยา PrEP ไม่ได้มีคำตอบตายตัวว่าตัวไหน “ดีที่สุด” เพราะความเหมาะสมขึ้นอยู่กับสุขภาพ พฤติกรรม และงบประมาณของแต่ละคน สำหรับผู้ที่เริ่มต้นใช้ PrEP ครั้งแรก สูตร TDF-based อย่าง Tenof EM หรือ Ricovir EM มักเป็นตัวเลือกยอดนิยมเพราะราคาคุ้มค่าและผ่านการใช้อย่างแพร่หลาย
ส่วนผู้ที่มีปัญหาเรื่องไต หรือต้องการลดผลข้างเคียงระยะยาว อาจเหมาะกับสูตร TAF-based เช่น Descovy หรือ TAF EM ที่อ่อนโยนต่อร่างกายมากกว่า หากต้องการความสะดวกสูงสุด ยังมีทางเลือกเป็น PrEP แบบฉีด (Cabotegravir) สำหรับผู้ที่ไม่สะดวกกินยาทุกวัน
ยา PrEP ใช้ได้ทั้งผู้ชาย ผู้หญิง และคู่ต่างเพศ โดยมีกลไกการป้องกันเชื้อ HIV เหมือนกัน แต่จะแตกต่างกันเล็กน้อยในด้านการดูแลและการตรวจสุขภาพก่อนเริ่มใช้ ในผู้หญิง แพทย์อาจตรวจเพิ่มเติมเรื่อง ฮอร์โมน การตั้งครรภ์ หรือภาวะตับ เพื่อเลือกสูตรที่เหมาะสมที่สุด เช่น สูตรที่มี TAF อาจปลอดภัยกว่าในบางกรณี
สำหรับคู่ต่างเพศหรือคู่รักที่คนใดคนหนึ่งติดเชื้อ HIV (คู่คู่ต่างสถานะ) PrEP เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยลดความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ควรใช้ควบคู่กับการตรวจเลือดและถุงยางอนามัยเพื่อป้องกันโรคติดต่ออื่น ๆ ด้วย
สำหรับผู้ที่มีภาวะไตทำงานลดลงหรือมีค่าไตไม่ปกติ ควรระมัดระวังการใช้ยา PrEP ที่มีสาร TDF (Tenofovir Disoproxil Fumarate) เนื่องจากอาจมีผลต่อการทำงานของไตในระยะยาว แพทย์มักแนะนำสูตรที่มี TAF (Tenofovir Alafenamide) เช่น Descovy หรือ TAF EM ซึ่งใช้ขนาดยาน้อยกว่าและดูดซึมได้ดี จึงลดการสะสมในไต
ก่อนเริ่มใช้ PrEP แพทย์จะตรวจเลือดเพื่อประเมินค่าการทำงานของไต (ค่า eGFR หรือ Creatinine) เพื่อเลือกสูตรที่เหมาะสมที่สุด และติดตามผลเป็นระยะเพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพในระยะยาว
โดยทั่วไปยา PrEP ไม่ได้ทำให้น้ำหนักเปลี่ยนแปลงมากนัก แต่มีรายงานวิจัยบางฉบับระบุว่า สูตรที่ใช้ TAF (Tenofovir Alafenamide) เช่น Descovy หรือ TAF EM อาจทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในบางคน เมื่อเทียบกับสูตร TDF (Tenofovir Disoproxil Fumarate) อย่าง Tenof EM หรือ Truvada ที่มักมีน้ำหนักคงที่มากกว่า
อย่างไรก็ตาม ความเปลี่ยนแปลงของน้ำหนักขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น พฤติกรรมการกิน การออกกำลังกาย และสุขภาพโดยรวม จึงไม่ควรตัดสินใจเลือกสูตรยาเพียงจากผลข้างเคียงด้านน้ำหนัก แต่ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินอย่างเหมาะสมกับร่างกายแต่ละคน
สำหรับผู้ที่เป็นไวรัสตับอักเสบบี (HBV) การเลือกใช้ยา PrEP ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด เพราะยากลุ่มนี้มีผลต่อการทำงานของตับโดยตรง สูตรที่มี Tenofovir เช่น Truvada, Tenof EM, หรือ Descovy สามารถช่วยกดการแบ่งตัวของไวรัสตับบีได้ในบางราย จึงมักเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกว่า
อย่างไรก็ตาม หากหยุดยาโดยไม่อยู่ในการดูแลของแพทย์ อาจทำให้เชื้อไวรัสตับบีกลับมาทำงานมากขึ้น (HBV reactivation) ดังนั้นควรตรวจเลือดเป็นประจำ และปรึกษาแพทย์ก่อนเริ่มหรือหยุดยา PrEP ทุกครั้ง เพื่อความปลอดภัยของตับในระยะยาว
“ก่อนหน้านี้ผมเคยกังวลเรื่องผลข้างเคียงของยา แต่หลังได้ปรึกษาแพทย์และเริ่มใช้ PrEP อย่างถูกวิธี รู้สึกมั่นใจมากขึ้น ใช้ชีวิตปกติได้โดยไม่เครียด”
— ผู้ใช้บริการจริงจาก Safe Clinic
จากประสบการณ์ของผู้ใช้จริง ส่วนใหญ่พบว่ายา PrEP ช่วยให้รู้สึกปลอดภัยขึ้นเมื่อต้องเผชิญสถานการณ์เสี่ยง โดยไม่พบผลข้างเคียงรุนแรงหากใช้ต่อเนื่องและตรวจเลือดสม่ำเสมอ
คำแนะนำจากแพทย์ Safe Clinic:
“การใช้ PrEP อย่างปลอดภัย ควรเริ่มจากการตรวจเลือดและเลือกสูตรยาที่เหมาะกับสุขภาพของแต่ละคน ไม่ควรซื้อมารับประทานเอง เพราะอาจมีผลต่อไต หรือตับได้ในระยะยาว”
ทีมแพทย์ของ Bangkok Safe Clinic ดูแลการใช้ PrEP แบบครบวงจร ตั้งแต่การประเมินสุขภาพ ตรวจเลือด ไปจนถึงติดตามผล เพื่อให้ผู้ใช้มั่นใจได้ทั้งประสิทธิภาพและความปลอดภัยในระยะยาว
ราคา PrEP ในปี 2025 มีความหลากหลายขึ้นตามสูตรยาและแบรนด์ โดยทั่วไปสูตร TDF-based มักมีราคาย่อมเยากว่า ส่วนสูตร TAF-based มีราคาสูงขึ้นเล็กน้อยเพราะเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่อ่อนโยนต่อไตและกระดูกมากกว่า
|
ยี่ห้อ |
ประเภทสูตรยา |
ช่วงราคาโดยประมาณ/เดือน |
หมายเหตุ |
|---|---|---|---|
|
Tenof EM |
TDF-based |
1,000 บาท |
สูตรยอดนิยม ราคาคุ้มค่า |
|
Ricovir EM |
TDF-based |
1,200 บาท |
เจเนอริกคุณภาพดี |
|
Teno EM |
TDF-based |
1,500 บาท |
สูตรเทียบเท่า Truvada |
|
TAF EM |
TAF-based |
1,800 บาท |
อ่อนโยนต่อไต |
|
Descovy |
TAF-based |
3,600 บาท |
แบรนด์ต้นตำรับจาก Gilead |
|
Truvada |
TDF-based |
ประมาณ 1,500–x,xxx บาท |
ผ่านการวิจัยมากที่สุดทั่วโลก |
ราคานี้ยังไม่รวมค่าบริการทางการแพทย์อื่นๆ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Bangkok Safe Clinic
ปัจจุบันยา PrEP มีให้เลือกทั้ง แบบเม็ดรับประทานทุกวัน และ แบบฉีดทุก 2 เดือน โดยทั้งสองแบบมีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อ HIV ใกล้เคียงกัน ต่างกันที่ “วิธีใช้” และ “ความสะดวกของแต่ละคน”
ทั้งสองแบบสามารถป้องกัน HIV ได้อย่างมีประสิทธิภาพหากใช้ต่อเนื่องและอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ ความแตกต่างจึงอยู่ที่ “ความเหมาะสมกับไลฟ์สไตล์” ของแต่ละคนมากกว่า
การเริ่มใช้ยา PrEP ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ เพื่อให้มั่นใจว่าร่างกายพร้อมและได้รับยาที่เหมาะสมที่สุด ขั้นตอนโดยทั่วไปที่ Safe Clinic แนะนำ มีดังนี้
การเริ่ม PrEP อย่างถูกวิธี จะช่วยให้การป้องกัน HIV มีประสิทธิภาพสูงสุดและปลอดภัยในระยะยาว
ยา PrEP แต่ละยี่ห้อมีคุณสมบัติคล้ายกันในด้านการป้องกัน HIV แต่ต่างกันในเรื่อง “ผลต่อร่างกาย” และ “ความเหมาะสมของผู้ใช้” ตารางด้านล่างช่วยสรุปภาพรวมเพื่อประกอบการตัดสินใจร่วมกับแพทย์
|
ยี่ห้อ |
จุดเด่น |
ข้อควรระวัง |
|---|---|---|
|
Tenof EM |
ราคาเข้าถึงง่าย มีงานวิจัยรองรับมาก |
อาจเพิ่มภาระต่อไตในบางราย |
|
Ricovir EM |
คุณภาพดี ราคาคุ้มค่า |
ผลข้างเคียงคล้าย Tenof EM |
|
Teno EM |
สูตรเทียบเท่า Truvada |
ต้องตรวจติดตามสุขภาพไตเป็นระยะ |
|
TAF EM |
อ่อนโยนต่อไตและกระดูก |
ราคาสูงกว่า TDF-based |
|
Descovy |
ต้นตำรับจาก Gilead ผ่านการรับรอง WHO |
อาจเพิ่มน้ำหนักเล็กน้อยในบางราย |
|
Truvada |
มาตรฐานระดับสากล มีข้อมูลวิจัยมากที่สุด |
อาจไม่เหมาะกับผู้ที่มีค่าไตต่ำ |
การเลือกยา PrEP ควรพิจารณาร่วมกับแพทย์ โดยคำนึงถึงสุขภาพโดยรวมและความสะดวกในการใช้ยาเป็นหลัก
Q1: ต้องกินยา PrEP ทุกวันไหม?
โดยทั่วไปควรกินยา PrEP ทุกวันในเวลาใกล้เคียงกัน เพื่อให้ระดับยาในเลือดคงที่และป้องกันเชื้อ HIV ได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากลืมกิน ควรกินทันทีที่นึกได้ภายในวันเดียวกัน
Q2: ถ้าลืมกินยา PrEP ต้องทำอย่างไร?
ถ้าลืม 1 เม็ด ให้กินทันทีเมื่อจำได้ แต่หากลืมหลายวันติดต่อกัน ควรปรึกษาแพทย์ก่อนกลับมาเริ่มใหม่ เพื่อประเมินความเสี่ยงและตรวจเลือดก่อนใช้อีกครั้ง
Q3: PrEP กับ PEP ต่างกันอย่างไร?
PrEP ใช้ “ก่อนมีความเสี่ยง” เพื่อป้องกันเชื้อ HIV ส่วน PEP ใช้ “หลังมีความเสี่ยง” ภายใน 72 ชั่วโมง เช่น หลังถุงยางรั่วหรือถูกเข็มตำ
Q4: ยา PrEP ป้องกันโรคติดต่อทางเพศอื่นได้ไหม?
PrEP ป้องกันเฉพาะเชื้อ HIV เท่านั้น ไม่สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศอื่น เช่น ซิฟิลิส หนองใน หรือเริมได้ ดังนั้นควรใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วยทุกครั้ง
Q5: ต้องตรวจเลือดบ่อยแค่ไหนเมื่อใช้ PrEP?
ควรตรวจเลือดทุก 3 เดือน เพื่อประเมินการทำงานของไต ตับ และยืนยันผล HIV เป็นลบอย่างต่อเนื่อง
การเลือกใช้ยา PrEP ที่เหมาะสม ควรเริ่มจากการทำความเข้าใจสุขภาพของตัวเองและพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศ แพทย์จะเป็นผู้ช่วยประเมินว่าคุณเหมาะกับสูตรใดระหว่าง TDF-based หรือ TAF-based รวมถึงพิจารณาความถี่ในการตรวจและติดตามผล
ผู้ที่มีสุขภาพไตดี อาจเหมาะกับสูตร Tenof EM หรือ Truvada ส่วนผู้ที่ต้องการลดผลข้างเคียงระยะยาว อาจเลือก Descovy หรือ TAF EM ในขณะที่ผู้ที่ไม่สะดวกกินยาทุกวัน อาจใช้ PrEP แบบฉีด (Cabotegravir) ได้ภายใต้การดูแลของแพทย์
PrEP จะมีประสิทธิภาพสูงสุดเมื่อใช้ต่อเนื่องและอยู่ภายใต้การติดตามจากแพทย์อย่างใกล้ชิด
หากต้องการนัดหมายเข้ารับบริการหรือต้องการปรึกษาเพิ่มเติม
สามารถจองคิวผ่านเว็บไซต์ หรือ Inbox ทางช่องทาง Social Media ต่างๆ ได้ด้านล่างนี้