หากคุณกำลังจะเริ่มต้นความสัมพันธ์กับใครใหม่หรือกำลังอยู่ในความเสี่ยง การดูแลสุขภาพทางเพศเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม การตรวจหาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STIs) คือหนึ่งในวิธีป้องกันที่ดีที่สุด ไม่เพียงเพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเอง แต่ยังรวมถึงคนที่คุณรักด้วย บทความนี้จะพาคุณไปรู้ว่า ก่อนตรวจควรเตรียมตัวอย่างไร ตรวจโรคอะไรบ้าง ตรวจเมื่อไหร่ถึงแม่น และต้องทำอย่างไรต่อหลังจากรู้ผล ทำไมต้องตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์? การตรวจหาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STIs) ก่อนเริ่มความสัมพันธ์ทางเพศกับคนใหม่ ไม่ใช่แค่ “เพื่อความมั่นใจ” เท่านั้น แต่ยังเป็น การรับผิดชอบต่อสุขภาพของทั้งตัวเราเองและคู่ของเรา เพราะโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์หลายชนิดสามารถ ติดต่อได้แม้ไม่มีอาการใด ๆ เลย ในระยะแรก และคนจำนวนมากอาจไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตนเองกำลังแพร่เชื้ออยู่ 1. โรคติดต่อหลายชนิด “เงียบ” แต่แพร่เชื้อได้ ข้อมูลจาก Centers for Disease Control and Prevention (CDC) ระบุว่าโรคอย่างเช่น Chlamydia และ Gonorrhea (หนองในแท้/เทียม) กว่า 70% ของผู้หญิงที่ติดเชื้อ ไม่มีอาการใด ๆ เลย แต่สามารถแพร่เชื้อให้ผู้อื่นได้ เช่นเดียวกับไวรัส HPV หรือเริมอวัยวะเพศ ที่สามารถถ่ายทอดผ่านผิวสัมผัส…
เคยไหม…ที่เราตัดสินใจผิดพลาดแค่ “ครั้งเดียว” แล้วต้องมานั่งลุ้นอีกหลายสัปดาห์ว่าจะติดเชื้อ HIV หรือเปล่า? อยากบอกว่า ทุกวันนี้เราไม่จำเป็นต้องเสี่ยงแบบนั้นอีกแล้ว เพราะเรามีตัวช่วยที่สามารถ “ป้องกันไว้ก่อน” หรือ “หยุดเชื้อไว้ทัน” ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นั่นคือ ยา PrEP และ ยา PEP หลายคนยังสับสนว่า ยา PrEP และ ยา PEP ต่างกันยังไง ต่างกันตรงไหน? ใช้เมื่อไหร่? แบบไหนเหมาะกับตัวเอง? บทความนี้จะอธิบายให้เข้าใจง่ายๆ เพื่อให้คุณวางแผนป้องกันตัวเองได้อย่างมั่นใจ ยา PrEP กับ ยา PEP คืออะไร? ยา PrEP และ ยา PEP คือยาต้านไวรัส (Antiretroviral Drugs) ที่มีจุดประสงค์หลักเหมือนกัน คือการป้องกันการติดเชื้อ HIV แต่ต่างกันที่ “ช่วงเวลาในการใช้” และ “สถานการณ์ที่เหมาะสม” ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่ควรเข้าใจอย่างชัดเจนก่อนตัดสินใจเลือกใช้ ยา PrEP คืออะไร?…
การป้องกันการติดเชื้อ HIV ถือเป็นเรื่องสำคัญต่อสุขภาพของคนรุ่นใหม่ นอกจากการใช้ถุงยางอนามัยและการใช้ยา PrEP แบบกินทุกวันแล้ว ปัจจุบันมีทางเลือกใหม่คือ PrEP แบบฉีด (CAB PrEP หรือ Apretude) ที่ช่วยลดความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะกับผู้ที่ไม่สะดวกหรือมักลืมทานยาเป็นประจำ บทความนี้จะอธิบายรายละเอียดที่ควรรู้เกี่ยวกับ PrEP แบบฉีด ตั้งแต่กลไกการทำงาน วิธีใช้ ข้อดีข้อจำกัด ราคา ไปจนถึงคำถามที่พบบ่อย เพื่อให้ผู้อ่านตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูลครบถ้วน PrEP แบบฉีด (CAB PrEP) คืออะไร? ต่างจาก PrEP แบบกินอย่างไร PrEP แบบฉีด หรือที่เรียกว่า CAB PrEP / CAB-LA (Cabotegravir Long-acting) เป็นยาต้านไวรัส HIV ชนิดฉีดเข้ากล้ามเนื้อ ใช้เพื่อป้องกันการติดเชื้อ HIV ล่วงหน้าก่อนมีความเสี่ยง ยานี้ได้รับการอนุมัติให้ใช้ในประเทศไทยภายใต้ชื่อการค้า Apretude PrEP แบบกิน (Oral PrEP) เป็นยาต้าน HIV…
โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STIs) ยังคงเป็นปัญหาสุขภาพที่พบได้บ่อยในปัจจุบัน โดยเฉพาะในกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง เช่น ชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย ผู้หญิงข้ามเพศ หรือผู้ที่มีคู่นอนหลายคน นอกจากการใช้ถุงยางอนามัยและการตรวจสุขภาพสม่ำเสมอแล้ว ปัจจุบันมีอีกหนึ่งทางเลือกที่เริ่มได้รับความสนใจคือ Doxy PEP (Doxycycline Post-Exposure Prophylaxis) Doxy PEP คือการใช้ยาปฏิชีวนะ ด็อกซีไซคลิน (Doxycycline) หลังจากมีเพศสัมพันธ์เสี่ยงภายใน 24–72 ชั่วโมง เพื่อช่วยลดโอกาสการติดเชื้อแบคทีเรียบางชนิด เช่น ซิฟิลิส คลามีเดีย และหนองใน หลายงานวิจัยระดับนานาชาติ รวมถึงแนวทางจาก CDC เริ่มสนับสนุนการใช้ในบางกลุ่มประชากรที่มีความเสี่ยงสูง บทความนี้จะอธิบาย Doxy PEP คืออะไร ใช้อย่างไร ป้องกันโรคอะไรได้บ้าง ใครควรใช้ ผลข้างเคียง ราคา และข้อถกเถียงในอนาคต เพื่อให้คุณเข้าใจและตัดสินใจได้อย่างรอบด้านภายใต้คำแนะนำของแพทย์ Doxy PEP คืออะไร? Doxy PEP (Doxycycline Post-Exposure Prophylaxis) คือ การใช้ยาปฏิชีวนะชื่อ ด็อกซีไซคลิน (Doxycycline)…
ยา PrEP หรือ Pre-Exposure Prophylaxis เป็นนวัตกรรมทางการแพทย์ที่ช่วยลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ HIV อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการรับประทานยาอย่างต่อเนื่องตามคำแนะนำของแพทย์ PrEP ได้กลายเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่เปลี่ยนโฉมหน้าการป้องกัน HIV ไปทั่วโลก โดยเฉพาะสำหรับกลุ่มผู้ที่มีความเสี่ยงสูง ตามคำแนะนำจากองค์การอนามัยโลก (WHO) PrEP ช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ HIV ได้สูงถึง 99% หากใช้อย่างถูกต้องและต่อเนื่อง อ่านเพิ่มเติม : PrEP (เพร็พ) ยาป้องกันต้านเชื้อ hiv และ โรคเอดส์ คืออะไร ราคาเท่าไหร่ ยา PrEP ทำงานอย่างไร? PrEP ทำงานโดยการยับยั้งกระบวนการเพิ่มจำนวนของเชื้อ HIV ในร่างกาย หากเชื้อเข้าสู่กระแสเลือด ยาจะลดโอกาสที่เชื้อจะเกาะตัวและแพร่กระจายเข้าสู่เซลล์ CD4 ซึ่งเป็นเซลล์สำคัญในระบบภูมิคุ้มกัน การรับประทาน PrEP อย่างถูกต้องและต่อเนื่องสามารถลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ HIV ได้สูงถึง 99% ความสำคัญของยา PrEP ในการป้องกัน HIV องค์การอนามัยโลก (WHO)…
ไวรัสตับอักเสบซี (Hepatitis C Virus – HCV) เป็นหนึ่งในไวรัสที่ก่อให้เกิดการอักเสบของตับ โดยส่วนใหญ่ติดต่อผ่านทางเลือด ผู้ติดเชื้อจำนวนมากไม่แสดงอาการในระยะแรก แต่หากปล่อยไว้โดยไม่รักษา อาจพัฒนาเป็นภาวะเรื้อรัง ตับแข็ง หรือมะเร็งตับในระยะยาวได้ ข่าวดีคือ ปัจจุบันมี ยารักษาไวรัสตับอักเสบซีแบบรับประทานที่ให้ผลหายขาดทางคลินิกสูงกว่า 95% ใช้ระยะเวลาสั้น และผลข้างเคียงน้อยกว่ายาในอดีตอย่างชัดเจน บทความนี้จะพาคุณทำความเข้าใจทุกแง่มุมของไวรัสตับอักเสบซี ตั้งแต่ลักษณะของเชื้อ การติดต่อ อาการ วิธีตรวจวินิจฉัย การรักษา ไปจนถึงแนวทางป้องกัน พร้อมข้อมูลอัปเดตตามแนวทางสมาคมโรคตับในไทยและต่างประเทศ เพื่อประกอบการตัดสินใจอย่างถูกต้อง ไวรัสตับอักเสบซีคืออะไร? ไวรัสตับอักเสบซี (Hepatitis C Virus หรือ HCV) คือไวรัสชนิด RNA สายเดี่ยวที่มีเปลือกหุ้ม (enveloped virus) ซึ่งจัดอยู่ในวงศ์ Flaviviridae เชื้อไวรัสนี้สามารถก่อให้เกิดการอักเสบของตับทั้งในระยะเฉียบพลันและระยะเรื้อรัง และอาจนำไปสู่ภาวะตับแข็งหรือมะเร็งตับหากไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม ผู้ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซีส่วนใหญ่มักไม่มีอาการแสดงในช่วงแรก ทำให้ไม่ทราบว่าตนเองมีเชื้อ การติดเชื้อมักถูกตรวจพบโดยบังเอิญจากการตรวจเลือดประจำปี หรือตรวจคัดกรองก่อนการผ่าตัดหรือบริจาคโลหิต ไวรัสชนิดนี้แพร่เชื้อผ่านทางเลือดเป็นหลัก เช่น การใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน การรับเลือดที่ไม่ได้ผ่านการตรวจคัดกรอง หรือการทำหัตถการทางการแพทย์ที่ไม่สะอาด ไม่ติดต่อผ่านการสัมผัสทั่วไป เช่น…
ไวรัสตับอักเสบบี (Hepatitis B Virus: HBV) เป็นเชื้อไวรัสที่ส่งผลกระทบต่อ “ตับ” โดยตรง และอาจนำไปสู่ภาวะเรื้อรังที่รุนแรง เช่น ตับแข็ง หรือมะเร็งตับ หากไม่ได้รับการวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้อง ประเทศไทยจัดเป็นหนึ่งในประเทศที่มีผู้ติดเชื้อ HBV เรื้อรังในระดับสูงโดยเฉพาะจากแม่สู่ลูก และผู้ที่ได้รับเชื้อตั้งแต่วัยเด็ก โดยที่หลายคนไม่รู้ตัวว่าเป็นพาหะหรือมีเชื้ออยู่ในร่างกาย เนื้อหาในบทความนี้รวบรวมข้อมูลสำคัญที่ครอบคลุมตั้งแต่ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับ HBV สาเหตุ อาการ การวินิจฉัย การรักษา การป้องกัน รวมถึงผลกระทบในระยะยาว เพื่อให้คุณเข้าใจและสามารถดูแลสุขภาพของตนเองและคนรอบข้างได้อย่างถูกต้อง ไวรัสตับอักเสบบีคืออะไร? ไวรัสตับอักเสบบี (Hepatitis B Virus หรือ HBV) คือไวรัสชนิดหนึ่งที่ทำให้เกิดการอักเสบของเซลล์ตับ สามารถติดต่อได้ผ่านเลือด (เข็มตำ การสักลายที่ใช้เข็มซ้ำ) เพศสัมพันธ์แบบไม่ป้องกัน และติดต่อจากมารดาที่ตั้งครรภ์สู่ทารก เป็นหนึ่งในโรคติดต่อที่พบได้บ่อยทั่วโลก โดยเฉพาะในทวีปเอเชีย รวมถึงประเทศไทย ผู้ติดเชื้อส่วนมากมักจะไม่มีอาการใด ๆ ในช่วงแรก แต่เชื้อไวรัสจะทำให้ตับอักเสบอย่างต่อเนื่อง หากไม่ได้รับการวินิจเฝ้าระวังและรักษาอย่างทันท่วงที เซลล์ตับจะโดนทำลายจนเกิดภาวะตับแข็ง และทำ ลักษณะของไวรัส จัดอยู่ในตระกูล Hepadnaviridae มีพันธุกรรมแบบ DNA…
ไวรัสตับอักเสบเอ (Hepatitis A) เป็นโรคติดต่อที่เกิดจากการรับประทานอาหารหรือดื่มน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อไวรัส HAV ซึ่งมักพบในพื้นที่ที่สุขอนามัยไม่ดี แม้จะเป็นโรคที่ไม่พัฒนาเป็นเรื้อรัง แต่ก็สามารถสร้างผลกระทบต่อสุขภาพได้ไม่น้อย โดยเฉพาะในผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีโรคตับอยู่ก่อนแล้ว บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักไวรัสตับอักเสบเอ แบบครบทุกมิติ ตั้งแต่ลักษณะของเชื้อ การติดต่อ อาการ การวินิจฉัย การรักษา การป้องกัน ไปจนถึงคำถามพบบ่อย พร้อมข้อมูลที่อัปเดตล่าสุดเพื่อช่วยให้คุณดูแลสุขภาพได้อย่างมั่นใจ ไวรัสตับอักเสบเอ คืออะไร? ไวรัสตับอักเสบเอ (Hepatitis A) คือการติดเชื้อที่เกิดจากเชื้อไวรัสชนิด HAV (Hepatitis A Virus) ซึ่งส่งผลกระทบต่อการทำงานของตับในระยะสั้น ลักษณะของโรคนี้จัดอยู่ในประเภทเฉียบพลัน ไม่พัฒนาเป็นโรคตับเรื้อรังหรือมะเร็งตับเหมือนไวรัสตับอักเสบบีหรือไวรัสตับอักเสบซี ไวรัสตับอักเสบเอ พบได้ทั่วโลก โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีระบบสุขาภิบาลไม่ดี เช่น ประเทศกำลังพัฒนา หรือชุมชนที่มีการปนเปื้อนของน้ำและอาหาร อัตราการติดเชื้อสูงในกลุ่มคนที่ไม่เคยได้รับวัคซีน หรือไม่มีภูมิคุ้มกันฟมาก่อน แม้ว่าการติดเชื้อ HAV ส่วนใหญ่จะไม่รุนแรงและสามารถหายได้เองภายในไม่กี่สัปดาห์ แต่ในบางกรณี โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ หรือผู้มีโรคประจำตัว อาการอาจรุนแรงจนต้องได้รับการดูแลทางการแพทย์อย่างใกล้ชิด โรคนี้สามารถป้องกันได้ง่ายผ่านการฉีดวัคซีน และการรักษาสุขอนามัยที่ดี เช่น ล้างมือก่อนรับประทานอาหาร หรือหลีกเลี่ยงอาหารและน้ำที่ไม่สะอาด ไวรัสตับอักเสบเอ ติดต่อได้อย่างไร? ไวรัสตับอักเสบเอ…
ทำความรู้จักกับตุ่ม PPE (Pruritic Papular Eruption in HIV) ดูสาเหตุการเกิด ลักษณะ การป้องกัน และวิธีรักษาอย่างละเอียด
ดูก่อน! แผลริมอ่อนคืออะไร อันตรายหรือไม่ รักษายังไงดีให้หาย ดูสาเหตุการเกิด ภาวะแทรกซ้อน และระยะเวลาในการรักษา