ตรวจเลือด HIV ซิฟิลิส รู้ผลไว รักษาได้เร็ว ใกล้ฉัน 2025

หากคุณเคยมีความรู้สึกกังวล ไม่แน่ใจ หรือลังเลที่จะตรวจเลือด HIV หรือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เพราะกลัวเจ็บ กลัวผล ในปัจจุบันการตรวจเลือดไม่ใช่เรื่องน่ากลัวอีกต่อไป เทคโนโลยีสมัยใหม่ทำให้รู้ผลได้เร็ว แม่นยำ ปลอดภัย และเป็นส่วนตัว ที่สำคัญคือ… ยิ่งตรวจเร็ว ยิ่งรักษาได้ทัน ไม่เพียงเพื่อสุขภาพของตัวคุณเอง แต่ยังเพื่อคนที่คุณรักด้วย

บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักทุกขั้นตอน ตั้งแต่การตรวจคืออะไร, ตรวจที่ไหนดี, ใช้เวลาเท่าไหร่, เจ็บไหม, จนถึงต้องตรวจบ่อยแค่ไหน เพื่อให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจและมีข้อมูลครบถ้วนที่สุด

ตรวจเลือด HIV และโรคติดต่อคืออะไร?

การตรวจเลือดหาเชื้อ HIV และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STIs) คือการตรวจวิเคราะห์สารคัดหลั่งในเลือดเพื่อตรวจหาเชื้อที่อาจแพร่จากคนหนึ่งสู่อีกคนผ่านการมีเพศสัมพันธ์ การใช้เข็มร่วม หรือเลือดที่มีเชื้อ การตรวจนี้ถือเป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญมากในการเฝ้าระวังสุขภาพ เพราะโรคเหล่านี้หลายชนิดสามารถแฝงตัวอยู่ในร่างกายได้นานโดยไม่มีอาการใดๆ

สำหรับการตรวจ HIV แพทย์จะตรวจหาแอนติบอดีหรือสารพันธุกรรมของเชื้อ HIV ที่อาจอยู่ในเลือด หากตรวจพบเร็วสามารถเข้าสู่กระบวนการดูแลและรักษาได้ทันที ลดความเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อและโรคแทรกซ้อนในอนาคต

โรคติดต่ออื่นๆ ที่สามารถตรวจพบจากเลือด ได้แก่

• ซิฟิลิส (Syphilis)
• ไวรัสตับอักเสบบี/ไวรัสตับอักเสบซี
• หนองในแท้/เทียม (Gonorrhea / Chlamydia)* (บางกรณีอาจตรวจจากปัสสาวะหรือสารคัดหลั่งร่วมด้วย)

ปัจจุบัน การตรวจเลือดสามารถทำได้ง่าย ใช้เวลาไม่นาน และบางแห่งมีบริการแบบไม่เปิดเผยชื่อ เพื่อให้ผู้รับบริการรู้สึกปลอดภัยทั้งด้านร่างกายและจิตใจ

ทำไมต้องตรวจเลือด?

การตรวจเลือดไม่ได้เป็นแค่การ “เช็กว่าติดหรือไม่” แต่คือการเฝ้าระวังสุขภาพอย่างรอบด้าน โดยเฉพาะในกลุ่มโรคติดต่อ เช่น HIV ซิฟิลิส หรือไวรัสตับอักเสบ ที่อาจไม่มีอาการในระยะแรก แต่สามารถแพร่เชื้อสู่ผู้อื่นได้โดยไม่รู้ตัว

หลายโรคเมื่อพบเร็ว สามารถรักษาได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น

• HIV: ยิ่งเริ่มรักษาไว ยิ่งควบคุมไวรัสได้ดี ลดโอกาสเกิดโรคแทรกซ้อน เช่น ภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือโรคติดเชื้อฉวยโอกาส
• ซิฟิลิส / หนองใน: รักษาหายขาดด้วยยาปฏิชีวนะ ถ้าตรวจพบในช่วงต้น
• ไวรัสตับอักเสบบี/ซี: ลดโอกาสเกิดตับแข็งและมะเร็งตับได้หากพบเร็วและได้รับการติดตามรักษาอย่างเหมาะสม

ใครบ้างที่ควรตรวจเลือด?

กลุ่มที่มีพฤติกรรมเสี่ยง ควรตรวจเลือดแม้จะไม่มีอาการใดๆ เลย เพราะโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์จำนวนมากสามารถแฝงตัวในร่างกายได้โดยไม่มีสัญญาณเตือนได้แก่

• ผู้ที่มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยาง ไม่ว่าจะเป็นเพศตรงข้ามหรือเพศเดียวกัน
• ผู้ที่มีคู่นอนหลายคน หรือเปลี่ยนคู่นอนบ่อย
• ผู้ที่มีคู่นอนใหม่ และยังไม่เคยตรวจสุขภาพทางเพศมาก่อน
• ผู้ที่เคยใช้เข็มฉีดยาร่วมกับผู้อื่น หรือมีประวัติการใช้ยาเสพติดชนิดฉีด
• ผู้หญิงตั้งครรภ์ หรือวางแผนจะมีบุตร ควรตรวจเพื่อป้องกันการส่งต่อเชื้อไปยังทารก
• ผู้ที่เคยมีประวัติโรคติดต่อมาก่อน ควรติดตามผลซ้ำอย่างสม่ำเสมอ
• ผู้ที่เคยได้รับเลือดหรืออวัยวะปลูกถ่ายก่อนปี 2535 (ช่วงที่ยังไม่มีระบบคัดกรอง HIV ที่ทั่วถึง)

ตรวจเลือด HIV ใกล้ฉัน ตรวจที่ไหนดี?

หากคุณกำลังมองหาสถานที่ตรวจเลือด HIV ที่ปลอดภัย รวดเร็ว และเป็นส่วนตัวในกรุงเทพฯ เรายินดีให้บริการ Safe Clinic

ทำไมต้องเลือกเรา Safe Clinic?

• ผลตรวจรวดเร็วใน 20 นาที: เราใช้เทคโนโลยีการตรวจที่ทันสมัย ให้ผลลัพธ์ที่แม่นยำและรวดเร็ว
• ความเป็นส่วนตัวสูงสุด: เราให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวของผู้รับบริการอย่างเคร่งครัด
• ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ: ทีมแพทย์ของเรามีความเชี่ยวชาญในการดูแลและให้คำปรึกษาเกี่ยวกับ HIV และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
• บริการครบวงจร: นอกจากการตรวจ HIV เรายังมีบริการตรวจและรักษาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ รวมถึงการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับ PrEP และ PEP

สถานที่ตั้งและเวลาทำการ

• ที่อยู่: ห้อง 314 ชั้น 3 อาคารไทม์สแควร์ ถนนสุขุมวิท แขวงคลองเตย กรุงเทพฯ
• เวลาเปิดทำการ: ทุกวัน เวลา 12:00 – 20:30 น.
• การเดินทาง: เดินทางสะดวก ใกล้ BTS อโศก และ MRT สุขุมวิท

คุณสามารถนัดหมายล่วงหน้าหรือเข้ารับบริการโดยไม่ต้องนัดหมายได้ที่เว็บไซต์ของเรา Safe Clinic

ขั้นตอนการตรวจเลือด HIV และโรคติดต่อเป็นยังไง?

หลายคนอาจกังวลหรือไม่แน่ใจว่าการตรวจเลือดจะยุ่งยากหรือเจ็บหรือไม่ ขั้นตอนการตรวจเลือด HIV และโรคติดต่อในปัจจุบันนั้นง่าย รวดเร็ว และไม่ซับซ้อน ที่ Safe Clinic ออกแบบบริการให้สะดวกและเป็นส่วนตัวสูงสุด ขั้นตอนโดยทั่วไปมีดังนี้

1. ลงทะเบียนและให้ข้อมูลเบื้องต้น
   • ไม่จำเป็นต้องเปิดเผยชื่อจริง
   • ระบุพฤติกรรมเสี่ยงหรืออาการที่สงสัย (ถ้ามี)
2. พูดคุยกับแพทย์หรือเจ้าหน้าที่เพื่อประเมินเบื้องต้น
   • แนะนำชนิดการตรวจที่เหมาะสม เช่น ตรวจ HIV, ซิฟิลิส, หนองใน, ไวรัสตับอักเสบ เป็นต้น
   • บางกรณีอาจแนะนำให้ตรวจปัสสาวะหรือสารคัดหลั่งร่วมด้วย
3. เก็บตัวอย่างเลือด (และ/หรือ ปัสสาวะ)
   • ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที
   • การเจาะเลือดโดยทั่วไปเจ็บน้อยมาก
4. รอผลตรวจ (Rapid Test ใช้เวลาเพียง 20-30 นาที)
   • บางกรณี เช่น การตรวจแบบส่งแล็บ อาจต้องรอผล 1-3 วัน
5. รับผลและคำปรึกษาหลังตรวจ
   • แพทย์จะแจ้งผลพร้อมให้คำแนะนำต่อเนื่อง เช่น การรักษา การป้องกัน หรือการตรวจซ้ำในอนาคต
   • หากพบเชื้อ จะมีระบบส่งต่อหรือให้การรักษาอย่างปลอดภัยและเป็นส่วนตัว

ใช้เวลานานแค่ไหนถึงจะรู้ผล?

ปัจจุบันการตรวจเลือด HIV และโรคติดต่อหลายชนิดสามารถรู้ผลได้อย่างรวดเร็วมาก โดยใช้เทคโนโลยีที่แม่นยำและผ่านการรับรองมาตรฐานสากล

ระยะเวลารู้ผลแบ่งได้ตามประเภทการตรวจ

• ตรวจแบบ Rapid Test (รู้ผลใน 20-30 นาที): ใช้สำหรับการตรวจ HIV, ซิฟิลิส และบางกรณีของไวรัสตับอักเสบบี ไวรัสตับอักเสบซี เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความรวดเร็ว และไม่ต้องรอผลข้ามวัน
• ตรวจแบบส่งห้องปฏิบัติการ (Lab Test): ใช้สำหรับการยืนยันผล หรือตรวจโรคที่ซับซ้อนมากขึ้น เช่น ตรวจ Viral Load, HIV RNA, หรือการตรวจสายพันธุ์ของไวรัส ใช้เวลาโดยเฉลี่ย 1–3 วันทำการ แล้วแต่ชนิดของการตรวจและห้องแล็บ

ที่ Safe Clinic

• การตรวจ HIV แบบ Rapid Test ใช้เวลาเพียง 20 นาที
• ผลตรวจอื่นๆ เช่น ซิฟิลิส, หนองใน ฯลฯ ใช้เวลาภายใน 30–45 นาที
• หากเป็นการตรวจเชิงลึก (PCR, RNA, Antigen) จะได้รับผลภายใน 3 วันทำการ

ผลตรวจออกมาแล้ว ทำอย่างไรต่อ?

ถ้าผลเป็นลบ (Negative)

• คุณไม่มีเชื้อ HIV หรือโรคติดต่อที่ตรวจในขณะนั้น
• อย่างไรก็ตาม หากคุณเพิ่งมีพฤติกรรมเสี่ยงมาไม่นาน (ภายใน 1–4 สัปดาห์) อาจยังอยู่ใน “ระยะฟักตัว” หรือ Window Period ที่ผลตรวจยังไม่สามารถตรวจพบได้แน่ชัด
• แพทย์จะแนะนำให้คุณ ตรวจซ้ำอีกครั้งภายใน 1–3 เดือน เพื่อยืนยันผล
  
  

การมีผลลบไม่ได้แปลว่า “ปลอดภัยตลอดไป” หากยังมีพฤติกรรมเสี่ยง ควรตรวจเป็นระยะ เช่น ทุก 3–6 เดือน

ถ้าผลเป็นบวก (Positive)

• อย่าตกใจ ปัจจุบัน HIV และโรคติดต่อส่วนใหญ่สามารถรักษา ควบคุม หรือหายขาดได้
• แพทย์จะแนะนำขั้นตอนถัดไปทันที เช่น การตรวจเพิ่มเติมเพื่อยืนยันผล, การตรวจวัดระดับภูมิคุ้มกัน หรือปริมาณไวรัส (เฉพาะ HIV), การเริ่มต้นรักษาโดยเร็ว เช่น ยาต้านไวรัส (ART)
• สำหรับโรคที่รักษาหาย เช่น ซิฟิลิส หรือหนองใน แพทย์จะเริ่มจ่ายยาทันที

ราคาค่าตรวจเลือด HIV และโรคติดต่อเท่าไหร่?

ราคาค่าตรวจเลือดขึ้นอยู่กับ ชนิดของการตรวจ, ความละเอียดของผล, และสถานที่ที่คุณเลือกใช้บริการ โดยทั่วไปแล้ว ผู้เข้ารับบริการสามารถเลือกระหว่างแพ็กเกจตรวจแบบเบื้องต้น หรือแพ็กเกจแบบครอบคลุมมากขึ้นตามความจำเป็น

ตรวจเลือดเจ็บไหม? อันตรายหรือเปล่า?

สำหรับหลายคน การ “กลัวเข็ม” หรือ “กังวลว่าจะเจ็บ” คืออุปสรรคหลักที่ทำให้เลื่อนหรือลังเลที่จะตรวจเลือด ในปัจจุบันขั้นตอนการเจาะเลือดปลอดภัย เจ็บน้อย และใช้เวลาสั้นมาก

ความรู้สึกขณะตรวจ

• ใช้เข็มขนาดเล็ก เจาะบริเวณเส้นเลือดที่แขน
• อาจรู้สึกจี๊ดเล็กน้อยขณะเจาะ แต่ไม่ถึงกับเจ็บหรือทรมาน
• ใช้เวลาไม่ถึง 1 นาทีในการเก็บตัวอย่างเลือด
• ผู้ให้บริการจะใช้เทคนิคเพื่อช่วยลดความรู้สึกไม่สบาย เช่น หายใจลึก ขยับแขน หรือพูดคุยเบี่ยงเบนความสนใจ

ความปลอดภัย

• ที่ Safe Clinic ทุกขั้นตอนใช้ อุปกรณ์ปลอดเชื้อแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง
• พนักงานทุกคนผ่านการอบรมเรื่องการให้บริการที่ปลอดภัยตามมาตรฐานกระทรวงสาธารณสุข
• ความเสี่ยงจากการตรวจเลือด (เช่น ช้ำ บวม) มีน้อยมาก และมักหายภายใน 1–2 วัน

หากกลัวเป็นพิเศษ

• คุณสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ล่วงหน้า
• ทางคลินิกมีประสบการณ์ดูแลผู้ที่กลัวเข็มโดยเฉพาะ เช่น วัยรุ่น หรือผู้ที่ตรวจครั้งแรก
• การพูดคุยเบาๆ หรือฟังเพลงขณะตรวจช่วยลดความกลัวได้ดี

ควรตรวจเลือดบ่อยแค่ไหน?

หมายเหตุ: ผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงต่อเนื่อง ควร “ตรวจให้เป็นกิจวัตร” เช่นเดียวกับการตรวจสุขภาพทั่วไป

บทสรุป

การตรวจเลือดหา HIV และโรคติดต่อ ไม่ใช่แค่การค้นหาว่าคุณ “ติดหรือไม่ติด” แต่มันคือการแสดงความรับผิดชอบต่อร่างกาย ความสัมพันธ์ และอนาคตของคุณเอง

ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร คุณยังมีทางเลือก และมีทีมแพทย์พร้อมดูแลอย่างมืออาชีพ ที่ Safe Clinic เราพร้อมให้บริการตรวจที่ปลอดภัย เป็นส่วนตัว และรวดเร็ว เพื่อให้คุณใช้ชีวิตต่อได้อย่างมั่นใจ การตรวจคือการดูแลตัวเอง ยิ่งรู้เร็ว… ยิ่งปกป้องได้มาก

• Facebook
• Twitter
• Line