Let’s play safe
Call Today : 083-534-4555, 02-006-8887
Room 314 , 246 Sukhumvit Rd, Khwaeng Khlong Toei, Bangkok
Open Hours
Open every day . 12:00 pm - 09:00 pm (Last Case 08.30 pm)

ตรวจ STD ราคาเท่าไหร่ ตรวจอะไรบ้าง เช็กลิสรายการตรวจ

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STD) เป็นปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้กับทุกคน ไม่ว่าจะมีคู่นอนประจำหรือไม่ก็ตาม หลายโรคสามารถติดได้โดยไม่มีอาการ และบางโรคอาจส่งผลร้ายแรงต่อสุขภาพในระยะยาว

หากคุณกำลังมองหาการตรวจ STD แต่ยังไม่แน่ใจว่า ควรตรวจอะไร, ราคาเท่าไหร่, หรือ ต้องเตรียมตัวยังไง บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักทุกแพ็กเกจที่มี พร้อมเปรียบเทียบแต่ละรายการอย่างชัดเจน เพื่อให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ ปลอดภัย และไม่เสียเงินเกินจำเป็น

เลือกหัวข้อที่ต้องการอ่าน แสดง

ตรวจ STD ตรวจอะไรบ้าง? ทำไมต้องตรวจให้ครบ

หลายคนเข้าใจว่าการตรวจ STD คือการตรวจหาแค่ HIV เท่านั้น แต่ในความเป็นจริง โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์มีมากกว่านั้นหลายชนิด และแต่ละโรคก็มีระดับความอันตรายที่แตกต่างกัน การเลือกตรวจเฉพาะโรคจึงอาจไม่เพียงพอสำหรับการประเมินความเสี่ยงอย่างแท้จริง

ปัจจุบันการตรวจ STD มีให้เลือกหลายรูปแบบ เช่น

  • ตรวจเลือด: ตรวจหาเชื้อไวรัส เช่น HIV, ซิฟิลิส, ไวรัสตับอักเสบ
  • ตรวจปัสสาวะ (PCR): ตรวจเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส และปรสิตที่พบบ่อย เช่น หนองในแท้ หนองในเทียม เริม หรือหูดหงอนไก่
  • ตรวจ HPV (DNA Test): ตรวจคัดกรองไวรัสที่ก่อมะเร็ง เช่น มะเร็งปากมดลูก ช่องปาก หรือทวารหนัก

การตรวจให้ครอบคลุมจึงช่วยให้สามารถวางแผนดูแลตัวเองและคู่ของคุณได้อย่างปลอดภัยยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นก่อนมีเพศสัมพันธ์กับคนใหม่ ก่อนแต่งงาน หรือแม้แต่เมื่อต้องการตรวจสุขภาพประจำปี

ตรวจเลือด STD มีกี่รายการ? เหมาะกับใคร

การตรวจเลือดถือเป็นขั้นพื้นฐานที่สุดในการตรวจหาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STD) โดยเฉพาะเชื้อไวรัสที่ไม่สามารถตรวจได้จากปัสสาวะ การตรวจเลือดมักครอบคลุมโรคหลัก ๆ ที่อาจไม่แสดงอาการชัดเจนแต่มีผลกระทบระยะยาว

รายการตรวจเลือด STD ที่พบบ่อย:

  • HIV (Human Immunodeficiency Virus) ตรวจด้วยชุดตรวจรุ่นใหม่ (4th Gen) ที่แม่นยำสูง รู้ผลเร็ว
  • ซิฟิลิส (Syphilis) ตรวจทั้ง Treponemal test และ RPR เพื่อประเมินระยะของโรค
  • ไวรัสตับอักเสบบี (Hepatitis B) ตรวจหาเชื้อที่ทำให้เกิดโรคตับเรื้อรังและมะเร็งตับ
  • ไวรัสตับอักเสบซี (Hepatitis C) ติดผ่านเลือดและเพศสัมพันธ์ ส่งผลคล้ายกับไวรัสตับบี

เหมาะกับใคร?

  • ผู้ที่เคยมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน
  • คู่รักที่ต้องการตรวจสุขภาพก่อนแต่งงานหรือมีบุตร
  • ผู้ที่ไม่เคยตรวจ STD มาก่อนในชีวิต
  • ผู้ที่มีอาการผิดปกติ เช่น อ่อนเพลียเรื้อรัง ผื่น หรือแผลไม่ทราบสาเหตุ

การตรวจเลือดช่วยให้วินิจฉัยได้แม่นยำ และวางแผนการรักษาได้ทันท่วงที โดยเฉพาะในโรคที่ไม่แสดงอาการแต่ส่งผลในระยะยาว

ตรวจปัสสาวะหาเชื้อทางเพศสัมพันธ์ ดีไหม? มีแบบไหนบ้าง

หลายคนอาจคุ้นเคยกับการตรวจเลือด แต่ “การตรวจปัสสาวะด้วยวิธี PCR” ก็เป็นอีกทางเลือกที่แม่นยำ ปลอดภัย และไม่เจ็บตัว เหมาะอย่างยิ่งสำหรับตรวจหาเชื้อแบคทีเรียและไวรัสที่ติดต่อทางเพศสัมพันธ์ผ่านการสอดใส่

การตรวจปัสสาวะแบบ PCR คืออะไร?

PCR (Polymerase Chain Reaction) เป็นเทคนิคการตรวจหาสารพันธุกรรมของเชื้อโรค ทำให้สามารถตรวจเจอเชื้อได้แม้ในปริมาณน้อย และแม้ยังไม่มีอาการ

แบบตรวจที่มีให้เลือก

  • PCR 2 โรค: หนองในแท้ (Gonorrhea) และหนองในเทียม (Chlamydia) รู้ผลไวภายใน 24 ชั่วโมง
  • PCR 11 โรค: รวมทั้งแบคทีเรีย เริม และพยาธิ ครอบคลุมการติดเชื้อที่พบบ่อยในไทย
  • PCR 15 โรค: เพิ่มเชื้อรา + เชื้อไวรัสอื่น เช่น เริม, HPV, Gardnerella เหมาะสำหรับตรวจแบบรอบเดียวจบ

เหมาะกับใคร?

  • ผู้ที่ไม่กล้าตรวจภายใน/ไม่อยากเจาะเลือด
  • ผู้ชายที่มีอาการขัดเบา หนอง หรือเจ็บตอนปัสสาวะ
  • ผู้หญิงที่ตกขาวผิดปกติ หรือสงสัยติดเชื้อจากคู่

เปรียบเทียบ PCR 2, 11, 15 โรค ต่างกันยังไง?

หากคุณกำลังลังเลว่าควรตรวจ STD แบบไหนดี การเลือก “ตรวจปัสสาวะ PCR” แบบ 2, 11 หรือ 15 โรค ก็อาจสร้างความสับสนได้ไม่น้อย เพราะแต่ละแบบมีราคาต่างกัน รายการที่ตรวจต่างกัน และระดับความครอบคลุมก็ไม่เท่ากัน

เปรียบเทียบแบบเข้าใจง่าย

รายการตรวจ

ตรวจโรค

จุดเด่น

ระยะเวลารู้ผล

เหมาะกับใคร

PCR 2 โรค

Gonorrhea, Chlamydia

ตรวจเฉพาะหนองในแท้-เทียม

24 ชม.

ผู้ที่มีความเสี่ยงเบื้องต้น

PCR 11 โรค

เพิ่ม HSV, ไมโครพลาสมา ฯลฯ

ครอบคลุมกลุ่มแบคทีเรียและไวรัสที่พบบ่อย

3–5 วัน

ต้องการตรวจเชิงลึกแต่ยังอยู่ในงบกลาง

PCR 15 โรค

เพิ่ม HPV, เชื้อรา, Gardnerella ฯลฯ

ครบวงจรทั้งแบคทีเรีย, ไวรัส, พยาธิ, เชื้อรา

24 ชม.

ผู้ที่ต้องการ “ตรวจรอบเดียวจบ” หรือมีอาการหลากหลาย

สรุปแบบง่าย

  • ถ้าคุณมีอาการเฉพาะ หรือมีความเสี่ยงจากพฤติกรรมครั้งเดียว → PCR 2 โรค
  • ถ้าอยากตรวจลึกกว่าพื้นฐาน และไม่แน่ใจอาการ → PCR 11 โรค
  • ถ้าต้องการมั่นใจที่สุด โดยเฉพาะก่อนมีเพศสัมพันธ์หรือก่อนแต่งงาน → PCR 15 โรค

ตรวจ HPV ผ่านปัสสาวะ คืออะไร เหมาะกับใคร

HPV หรือไวรัสฮิวแมนแพปพิโลมา (Human Papillomavirus) เป็นเชื้อไวรัสที่ติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และเป็นสาเหตุหลักของ “มะเร็งปากมดลูก” รวมถึงมะเร็งช่องปาก มะเร็งทวารหนัก และหูดหงอนไก่บางประเภท

ตรวจ HPV แบบไม่ต้องเจ็บตัว: Urine PCR

เทคโนโลยีใหม่ที่ช่วยให้สามารถตรวจหา HPV 14 สายพันธุ์เสี่ยงสูง ผ่านปัสสาวะ ไม่ต้องตรวจภายใน ไม่ต้องใช้เครื่องมือในช่องคลอด

ข้อมูลการตรวจ

  • ตรวจหา HPV 14 สายพันธุ์ที่สัมพันธ์กับความเสี่ยงมะเร็ง
  • ใช้ตัวอย่างปัสสาวะ (กลั้นอย่างน้อย 1 ชั่วโมง)
  • รู้ผลภายใน 3–5 วัน

เหมาะกับใคร?

  • ผู้หญิงที่ไม่สะดวกตรวจภายใน
  • กลุ่ม LGBTQ ที่ไม่เคยตรวจคัดกรอง HPV
  • คู่รักที่วางแผนมีเพศสัมพันธ์ระยะยาว
  • ผู้ที่มีประวัติคู่นอนหลายคน
  • คนที่เคยเป็นหูดหงอนไก่

การตรวจ HPV ผ่านปัสสาวะถือเป็นทางเลือกใหม่ที่แม่นยำ

ตารางแพ็กเกจตรวจ STD พร้อมรายละเอียดโรคที่ตรวจ

ชื่อแพ็กเกจ

ราคา (บาท)

ตรวจหาเชื้อ/โรคที่ครอบคลุม

เวลารู้ผล

ตรวจเลือด STD (4 รายการ)

ประมาณ 3,150

  • HIV (4th generation Ag/Ab)
  • ซิฟิลิส (Syphilis: Treponemal + RPR)
  • ไวรัสตับอักเสบบี (HBV)
  • ไวรัสตับอักเสบซี (HCV)

40 นาที

ตรวจ HSV IgG/IgM

2,000

Herpes Simplex Virus (ชนิด 1 และ 2)

1–2 วัน

ตรวจ PCR ปัสสาวะ 2 โรค

3,200

  • Neisseria gonorrhoeae (หนองในแท้)
  • Chlamydia trachomatis (หนองในเทียม Sero A–K)

24 ชั่วโมง

ตรวจ PCR ปัสสาวะ 7 โรค

3,500

เพิ่มอีก 5 โรค: จากรายการ PCR ปัสสาวะ 2 โรค

  • Mycoplasma hominis
  • Mycoplasma genitalium
  • Trichomonas vaginalis (พยาธิช่องคลอด)
  • Ureaplasma urealyticum
  • Ureaplasma parvum

24 ชั่วโมง

ตรวจ PCR ปัสสาวะ 11 โรค

4,000

  • Neisseria gonorrhoeae
  • Chlamydia trachomatis (Sero A-K)
  • Chlamydia trachomatis (Sero L1–L3)
  • Mycoplasma hominis
  • Mycoplasma genitalium
  • Trichomonas vaginalis
  • Ureaplasma urealyticum
  • Ureaplasma parvum
  • Herpes simplex virus 1
  • Herpes simplex virus 2
  • Treponema pallidum (แผลริมแข็ง/ซิฟิลิส)

3–5 วัน

ตรวจ PCR ปัสสาวะ 15 โรค

4,900

เพิ่มอีก 4 โรค: จากรายการ PCR ปัสสาวะ 11 โรค

  • Gardnerella vaginalis (เชื้อแบคทีเรียช่องคลอด)
  • Group B Streptococcus
  • Candida albicans (เชื้อรา)
  • Candida glabrata (เชื้อรา)

24 ชั่วโมง

ตรวจ HPV 14 สายพันธุ์

2,500

ตรวจ HPV สายพันธุ์เสี่ยงสูง: HPV 16, 18, 31, 33, 35, 39, 45, 51, 52, 56, 58, 59, 66, 68

3–5 วัน

แพ็กเกจ ตรวจ STD 29 โรค (Urine PCR)

6,900

  • รวมทั้งหมดจาก PCR 15 โรค + HPV 14 สายพันธุ์
  • รวมทั้งหมด 29 รายการในครั้งเดียว

24 ชั่วโมง (ทั่วไป) + 3–5 วัน (HPV)

ตรวจ STD ต้องเตรียมตัวยังไง?

หลายคนลังเลที่จะมาตรวจ STD เพราะกลัวว่าจะต้องงดอาหาร งดน้ำ หรือต้องเตรียมตัวยุ่งยาก แต่จริงๆ แล้ว “การเตรียมตัวก่อนตรวจ STD” ไม่ได้ซับซ้อนอย่างที่คิด

วิธีเตรียมตัวก่อนตรวจ STD

  • หากตรวจแบบปัสสาวะ (PCR):
    • กลั้นปัสสาวะอย่างน้อย 1 ชั่วโมงก่อนตรวจ
    • หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ภายใน 24 ชั่วโมง
    • ไม่ควรตรวจขณะมีประจำเดือน
  • หากตรวจเลือด:
    • ไม่จำเป็นต้องงดน้ำงดอาหาร ยกเว้นได้รับคำแนะนำเฉพาะจากแพทย์
  • หากสงสัยว่าติดเชื้อ หรือมีอาการชัดเจน:
    • ควรรีบตรวจโดยไม่ต้องรอครบระยะฟักตัว
    • แจ้งอาการกับแพทย์หรือเจ้าหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา

บทสรุป

ไม่ว่าคุณจะตรวจเพราะมีความเสี่ยง หรือเพียงต้องการความมั่นใจก่อนเริ่มความสัมพันธ์ใหม่ การตรวจ STD เป็นหนึ่งในวิธีดูแลสุขภาพที่ไม่ควรมองข้าม

การเลือกแพ็กเกจที่เหมาะสมกับตัวเอง ไม่จำเป็นต้องแพงหรือซับซ้อน ขอแค่รู้ว่า “คุณต้องการตรวจอะไร” และ “คุ้มค่าที่สุดกับความเสี่ยงของคุณ” บทความนี้ช่วยให้คุณเห็นภาพรวม เข้าใจความแตกต่างของแต่ละโปรแกรม พร้อมวางแผนการตรวจได้อย่างมีประสิทธิภาพ สุขภาพดี และเริ่มต้นที่การรู้จักตัวเองให้มากขึ้น

icon email