โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STD) เป็นปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้กับทุกคน ไม่ว่าจะมีคู่นอนประจำหรือไม่ก็ตาม หลายโรคสามารถติดได้โดยไม่มีอาการ และบางโรคอาจส่งผลร้ายแรงต่อสุขภาพในระยะยาว
หากคุณกำลังมองหาการตรวจ STD แต่ยังไม่แน่ใจว่า ควรตรวจอะไร, ราคาเท่าไหร่, หรือ ต้องเตรียมตัวยังไง บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักทุกแพ็กเกจที่มี พร้อมเปรียบเทียบแต่ละรายการอย่างชัดเจน เพื่อให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ ปลอดภัย และไม่เสียเงินเกินจำเป็น
หลายคนเข้าใจว่าการตรวจ STD คือการตรวจหาแค่ HIV เท่านั้น แต่ในความเป็นจริง โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์มีมากกว่านั้นหลายชนิด และแต่ละโรคก็มีระดับความอันตรายที่แตกต่างกัน การเลือกตรวจเฉพาะโรคจึงอาจไม่เพียงพอสำหรับการประเมินความเสี่ยงอย่างแท้จริง
ปัจจุบันการตรวจ STD มีให้เลือกหลายรูปแบบ เช่น
การตรวจให้ครอบคลุมจึงช่วยให้สามารถวางแผนดูแลตัวเองและคู่ของคุณได้อย่างปลอดภัยยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นก่อนมีเพศสัมพันธ์กับคนใหม่ ก่อนแต่งงาน หรือแม้แต่เมื่อต้องการตรวจสุขภาพประจำปี
การตรวจเลือดถือเป็นขั้นพื้นฐานที่สุดในการตรวจหาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STD) โดยเฉพาะเชื้อไวรัสที่ไม่สามารถตรวจได้จากปัสสาวะ การตรวจเลือดมักครอบคลุมโรคหลัก ๆ ที่อาจไม่แสดงอาการชัดเจนแต่มีผลกระทบระยะยาว
การตรวจเลือดช่วยให้วินิจฉัยได้แม่นยำ และวางแผนการรักษาได้ทันท่วงที โดยเฉพาะในโรคที่ไม่แสดงอาการแต่ส่งผลในระยะยาว
หลายคนอาจคุ้นเคยกับการตรวจเลือด แต่ “การตรวจปัสสาวะด้วยวิธี PCR” ก็เป็นอีกทางเลือกที่แม่นยำ ปลอดภัย และไม่เจ็บตัว เหมาะอย่างยิ่งสำหรับตรวจหาเชื้อแบคทีเรียและไวรัสที่ติดต่อทางเพศสัมพันธ์ผ่านการสอดใส่
PCR (Polymerase Chain Reaction) เป็นเทคนิคการตรวจหาสารพันธุกรรมของเชื้อโรค ทำให้สามารถตรวจเจอเชื้อได้แม้ในปริมาณน้อย และแม้ยังไม่มีอาการ
หากคุณกำลังลังเลว่าควรตรวจ STD แบบไหนดี การเลือก “ตรวจปัสสาวะ PCR” แบบ 2, 11 หรือ 15 โรค ก็อาจสร้างความสับสนได้ไม่น้อย เพราะแต่ละแบบมีราคาต่างกัน รายการที่ตรวจต่างกัน และระดับความครอบคลุมก็ไม่เท่ากัน
รายการตรวจ |
ตรวจโรค |
จุดเด่น |
ระยะเวลารู้ผล |
เหมาะกับใคร |
---|---|---|---|---|
PCR 2 โรค |
Gonorrhea, Chlamydia |
ตรวจเฉพาะหนองในแท้-เทียม |
24 ชม. |
ผู้ที่มีความเสี่ยงเบื้องต้น |
PCR 11 โรค |
เพิ่ม HSV, ไมโครพลาสมา ฯลฯ |
ครอบคลุมกลุ่มแบคทีเรียและไวรัสที่พบบ่อย |
3–5 วัน |
ต้องการตรวจเชิงลึกแต่ยังอยู่ในงบกลาง |
PCR 15 โรค |
เพิ่ม HPV, เชื้อรา, Gardnerella ฯลฯ |
ครบวงจรทั้งแบคทีเรีย, ไวรัส, พยาธิ, เชื้อรา |
24 ชม. |
ผู้ที่ต้องการ “ตรวจรอบเดียวจบ” หรือมีอาการหลากหลาย |
HPV หรือไวรัสฮิวแมนแพปพิโลมา (Human Papillomavirus) เป็นเชื้อไวรัสที่ติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และเป็นสาเหตุหลักของ “มะเร็งปากมดลูก” รวมถึงมะเร็งช่องปาก มะเร็งทวารหนัก และหูดหงอนไก่บางประเภท
เทคโนโลยีใหม่ที่ช่วยให้สามารถตรวจหา HPV 14 สายพันธุ์เสี่ยงสูง ผ่านปัสสาวะ ไม่ต้องตรวจภายใน ไม่ต้องใช้เครื่องมือในช่องคลอด
การตรวจ HPV ผ่านปัสสาวะถือเป็นทางเลือกใหม่ที่แม่นยำ
ชื่อแพ็กเกจ |
ราคา (บาท) |
ตรวจหาเชื้อ/โรคที่ครอบคลุม |
เวลารู้ผล |
---|---|---|---|
ตรวจเลือด STD (4 รายการ) |
ประมาณ 3,150 |
|
40 นาที |
ตรวจ HSV IgG/IgM |
2,000 |
Herpes Simplex Virus (ชนิด 1 และ 2) |
1–2 วัน |
ตรวจ PCR ปัสสาวะ 2 โรค |
3,200 |
|
24 ชั่วโมง |
ตรวจ PCR ปัสสาวะ 7 โรค |
3,500 |
เพิ่มอีก 5 โรค: จากรายการ PCR ปัสสาวะ 2 โรค
|
24 ชั่วโมง |
ตรวจ PCR ปัสสาวะ 11 โรค |
4,000 |
|
3–5 วัน |
ตรวจ PCR ปัสสาวะ 15 โรค |
4,900 |
เพิ่มอีก 4 โรค: จากรายการ PCR ปัสสาวะ 11 โรค
|
24 ชั่วโมง |
ตรวจ HPV 14 สายพันธุ์ |
2,500 |
ตรวจ HPV สายพันธุ์เสี่ยงสูง: HPV 16, 18, 31, 33, 35, 39, 45, 51, 52, 56, 58, 59, 66, 68 |
3–5 วัน |
แพ็กเกจ ตรวจ STD 29 โรค (Urine PCR) |
6,900 |
|
24 ชั่วโมง (ทั่วไป) + 3–5 วัน (HPV) |
หลายคนลังเลที่จะมาตรวจ STD เพราะกลัวว่าจะต้องงดอาหาร งดน้ำ หรือต้องเตรียมตัวยุ่งยาก แต่จริงๆ แล้ว “การเตรียมตัวก่อนตรวจ STD” ไม่ได้ซับซ้อนอย่างที่คิด
ไม่ว่าคุณจะตรวจเพราะมีความเสี่ยง หรือเพียงต้องการความมั่นใจก่อนเริ่มความสัมพันธ์ใหม่ การตรวจ STD เป็นหนึ่งในวิธีดูแลสุขภาพที่ไม่ควรมองข้าม
การเลือกแพ็กเกจที่เหมาะสมกับตัวเอง ไม่จำเป็นต้องแพงหรือซับซ้อน ขอแค่รู้ว่า “คุณต้องการตรวจอะไร” และ “คุ้มค่าที่สุดกับความเสี่ยงของคุณ” บทความนี้ช่วยให้คุณเห็นภาพรวม เข้าใจความแตกต่างของแต่ละโปรแกรม พร้อมวางแผนการตรวจได้อย่างมีประสิทธิภาพ สุขภาพดี และเริ่มต้นที่การรู้จักตัวเองให้มากขึ้น
หากต้องการนัดหมายเข้ารับบริการหรือต้องการปรึกษาเพิ่มเติม
สามารถจองคิวผ่านเว็บไซต์ หรือ Inbox ทางช่องทาง Social Media ต่างๆ ได้ด้านล่างนี้