Tenof EM เป็นยาที่ถูกพูดถึงอย่างมากในฐานะ PrEP (Pre-Exposure Prophylaxis) หรือยาป้องกันการติดเชื้อ HIV ก่อนสัมผัสเชื้อ ปัจจุบันถูกใช้แพร่หลายทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทย เนื่องจากมีข้อมูลวิจัยและแนวทางจากองค์การอนามัยโลก (WHO) สนับสนุนอย่างชัดเจน
หลายคนอาจสงสัยว่า Tenof EM คืออะไร ใช้อย่างไร ปลอดภัยจริงหรือไม่ และแตกต่างจากยา PrEP รุ่นใหม่อย่างไร บทความนี้ได้รวบรวมข้อมูลสำคัญที่ควรรู้ เพื่อช่วยให้ตัดสินใจได้อย่างมั่นใจและปลอดภัยยิ่งขึ้น
Tenof EM เป็นยาที่ใช้สำหรับการป้องกันการติดเชื้อ HIV ก่อนสัมผัสเชื้อ หรือที่เรียกว่า PrEP (Pre-Exposure Prophylaxis) โดยยาชนิดนี้ประกอบด้วยตัวยาสองชนิดคือ Tenofovir disoproxil fumarate (TDF) และ Emtricitabine (FTC) ซึ่งทำงานร่วมกันในการยับยั้งไม่ให้เชื้อ HIV แบ่งตัวและแพร่กระจายในร่างกาย
Tenof EM ถูกแนะนำโดยองค์การอนามัยโลก (WHO) และหน่วยงานสาธารณสุขหลายประเทศว่าเป็น first-line PrEP ที่มีประสิทธิภาพสูง เหมาะกับผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ HIV และควรใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์เพื่อความปลอดภัยและการติดตามผลอย่างต่อเนื่อง
สำหรับในประเทศไทย Tenof EM เป็นยาที่สามารถเข้าถึงได้ในคลินิกและโรงพยาบาล โดยมักใช้ในรูปแบบการป้องกันรายวัน (Daily PrEP) และควรเริ่มใช้หลังจากผ่านการตรวจสุขภาพและยืนยันว่าไม่มีการติดเชื้อ HIV อยู่ก่อนแล้ว
Tenof EM ประกอบด้วยตัวยาหลัก 2 ชนิด คือ Tenofovir disoproxil fumarate (TDF) และ Emtricitabine (FTC) ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มยาต้านไวรัสที่เรียกว่า NRTIs (Nucleoside Reverse Transcriptase Inhibitors) ทำงานโดยการยับยั้งเอนไซม์ reverse transcriptase ที่เชื้อ HIV ใช้ในการสร้างสำเนา RNA ไปเป็น DNA
เมื่อการทำงานของเอนไซม์ถูกขัดขวาง เชื้อ HIV จะไม่สามารถขยายพันธุ์และกระจายตัวในร่างกายได้ ทำให้โอกาสในการติดเชื้อลดลงอย่างมาก นี่คือเหตุผลว่าทำไม Tenof EM จึงถูกเลือกให้เป็นยาหลักในการป้องกัน HIV ทั่วโลก
ทั้ง TDF และ FTC มีการศึกษาวิจัยอย่างกว้างขวางและได้รับการยืนยันจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ว่าสามารถใช้ร่วมกันเพื่อป้องกันการติดเชื้อ HIV ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และควรใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์เพื่อความปลอดภัยสูงสุด
Tenof EM ได้รับการแนะนำจากองค์การอนามัยโลก (WHO) และศูนย์ควบคุมโรคของสหรัฐฯ (CDC) ว่าเป็นยาหลักสำหรับการป้องกัน HIV (PrEP) เนื่องจากมีประสิทธิภาพสูงและได้รับการพิสูจน์จากงานวิจัยจำนวนมากว่าสามารถลดความเสี่ยงการติดเชื้อได้อย่างมีนัยสำคัญเมื่อใช้ถูกวิธี
อีกเหตุผลสำคัญคือ Tenof EM เป็นยาที่เข้าถึงง่าย มีราคาถูกกว่าเมื่อเทียบกับยารุ่นใหม่ ทำให้สามารถใช้ได้ในหลายประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศกำลังพัฒนา รวมถึงประเทศไทยที่นำมาใช้เป็นมาตรฐานในคลินิกและโรงพยาบาล
ความนิยมของ Tenof EM ยังเกิดจากประสบการณ์การใช้จริงที่ยาวนาน หลายปีที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่ายานี้มีความปลอดภัยเมื่อใช้ภายใต้การติดตามของแพทย์ จึงกลายเป็นทางเลือกแรกของผู้ที่ต้องการเริ่ม PrEP
Tenof EM เหมาะสำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ HIV สูง โดยเฉพาะกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย (MSM) ผู้ที่มีคู่นอนหลายคน หรือคู่รักที่ฝ่ายหนึ่งมีเชื้อ HIV และอีกฝ่ายยังไม่ติดเชื้อ (sero-discordant couple)
นอกจากนี้ ผู้ที่มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัย หรือผู้ที่เคยได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์บ่อยครั้ง ก็จัดเป็นกลุ่มที่อาจได้รับประโยชน์จากการใช้ Tenof EM เป็น PrEP เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกคนที่ควรใช้ PrEP การเริ่มใช้ Tenof EM ต้องผ่านการตรวจเลือดเพื่อยืนยันว่าไม่มีเชื้อ HIV อยู่ก่อนแล้ว และควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เพื่อให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล
การใช้ Tenof EM เพื่อป้องกัน HIV มี 2 วิธีหลัก ได้แก่ Daily PrEP และ On-demand PrEP โดย Daily PrEP คือการรับประทานวันละ 1 เม็ดอย่างสม่ำเสมอ เหมาะสำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงต่อเนื่องหรือต้องการความมั่นใจตลอดเวลา
ส่วน On-demand PrEP หรือที่เรียกว่า “2-1-1 regimen” ใช้ในบางกรณี เช่น ผู้ชายที่มีเพศสัมพันธ์กับผู้ชาย โดยจะเริ่มทาน 2 เม็ดก่อนมีเพศสัมพันธ์ แล้วตามด้วย 1 เม็ดหลัง 24 ชั่วโมง และอีก 1 เม็ดหลัง 48 ชั่วโมง วิธีนี้ต้องใช้ตามคำแนะนำของแพทย์อย่างใกล้ชิด
ไม่ว่าจะเลือกใช้แบบใด สิ่งสำคัญคือการทานให้ตรงเวลาและไม่ลืมยา เพราะความสม่ำเสมอของการใช้ PrEP คือหัวใจหลักในการป้องกัน HIV อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
ก่อนเริ่มใช้ Tenof EM จำเป็นต้องตรวจเลือดเพื่อยืนยันว่าไม่มีการติดเชื้อ HIV อยู่ก่อน รวมถึงตรวจการทำงานของตับและไต เพื่อให้แน่ใจว่าสามารถใช้ยานี้ได้อย่างปลอดภัย
หลังจากเริ่มใช้ยาแล้ว ควรตรวจเลือดซ้ำเป็นระยะ ได้แก่ การตรวจ HIV ซ้ำทุก 3 เดือน และตรวจค่าการทำงานของไต-ตับตามที่แพทย์แนะนำ การตรวจอย่างสม่ำเสมอช่วยให้มั่นใจว่ายังปลอดภัยและได้ผลในการป้องกัน
การติดตามผลด้วยการตรวจเลือดเป็นส่วนสำคัญของการใช้ PrEP เพราะช่วยให้แพทย์ปรับการรักษาได้อย่างเหมาะสมและลดความเสี่ยงจากผลข้างเคียงของยา
การใช้ Tenof EM อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงเล็กน้อย เช่น เวียนศีรษะ คลื่นไส้ หรือปวดท้อง ซึ่งมักหายไปเองเมื่อร่างกายปรับตัว นอกจากนี้ การใช้ยาต่อเนื่องระยะยาวอาจส่งผลต่อการทำงานของไตและความหนาแน่นของกระดูก จึงควรตรวจสุขภาพเป็นประจำ
เพื่อช่วยลดความเสี่ยง ควรทานยาหลังอาหาร ดื่มน้ำมาก ๆ และติดตามผลการตรวจเลือดตามที่แพทย์กำหนด หากพบอาการผิดปกติควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที ไม่ควรหยุดยาหรือปรับยาเอง
การดูแลอย่างใกล้ชิดจากแพทย์และการใช้ยาตามคำแนะนำอย่างสม่ำเสมอ คือวิธีสำคัญในการลดโอกาสเกิดผลข้างเคียงและทำให้การใช้ PrEP มีประสิทธิภาพสูงสุด
Tenof EM เป็นยาที่ผ่านการรับรองจากองค์การอนามัยโลก (WHO) และถูกใช้เป็นมาตรฐานการป้องกัน HIV ในหลายประเทศทั่วโลก งานวิจัยจำนวนมากยืนยันว่ายามีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงในการลดความเสี่ยงการติดเชื้อเมื่อใช้ตามคำแนะนำแพทย์
ข้อมูลทางคลินิกแสดงให้เห็นว่า ผลข้างเคียงส่วนใหญ่ของ Tenof EM มักเป็นเพียงอาการเล็กน้อยและหายได้เอง ขณะที่ความเสี่ยงระยะยาว เช่น การทำงานของไตหรือลดความหนาแน่นของกระดูก สามารถป้องกันได้ด้วยการตรวจสุขภาพเป็นระยะ
ดังนั้น หากใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างเหมาะสม Tenof EM จัดว่าเป็นยาที่มีความปลอดภัยสูง และเป็นตัวเลือกแรกที่องค์กรสาธารณสุขแนะนำสำหรับการเริ่มต้น PrEP
การใช้ Tenof EM ร่วมกับการดื่มแอลกอฮอล์โดยทั่วไปไม่พบว่ามีปฏิกิริยาที่เป็นอันตรายโดยตรง แต่การดื่มมากเกินไปอาจเพิ่มภาระให้กับตับและไต ซึ่งเป็นอวัยวะที่เกี่ยวข้องกับการขับยาออกจากร่างกาย
สำหรับการใช้ร่วมกับยาอื่น เช่น ยาต้านไวรัส ยากันชัก หรือยาที่มีผลต่อไตและตับ อาจเกิดปฏิกิริยาระหว่างยาได้ จึงควรแจ้งแพทย์เกี่ยวกับยาทั้งหมดที่ใช้อยู่ก่อนเริ่ม Tenof EM
สรุปคือ การดื่มแอลกอฮอล์เล็กน้อยมักไม่เป็นปัญหา แต่การใช้ยาร่วมกับยาอื่นควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เพื่อความปลอดภัยสูงสุด
Tenof EM สามารถใช้เป็น PrEP ได้ทั้งในผู้ชายและผู้หญิง รวมถึงคู่รักที่ฝ่ายหนึ่งติดเชื้อ HIV และอีกฝ่ายไม่ติดเชื้อ โดยเฉพาะในคู่ที่วางแผนมีบุตร ยานี้ช่วยลดความเสี่ยงการถ่ายทอดเชื้อระหว่างเพศสัมพันธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อย่างไรก็ตาม ผู้หญิงที่ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรควรได้รับการประเมินโดยแพทย์ก่อนใช้ยา เนื่องจากต้องพิจารณาความเหมาะสมเป็นรายบุคคล เพื่อให้ปลอดภัยทั้งต่อมารดาและทารก
การใช้ Tenof EM ในกลุ่มนี้จึงควรอยู่ภายใต้การติดตามใกล้ชิดจากแพทย์ เพื่อปรับการดูแลและให้คำแนะนำที่เหมาะสมตามสถานการณ์ของแต่ละคน
Tenof EM มีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อ HIV เท่านั้น แต่ไม่สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่น ๆ เช่น ซิฟิลิส หนองในแท้ หนองในเทียม เริม หรือ HPV ได้ ดังนั้นถึงแม้จะใช้ PrEP ก็ยังควรใช้ถุงยางอนามัยควบคู่ไปด้วยเสมอ
การใช้ถุงยางอนามัยนอกจากช่วยลดความเสี่ยงโรคติดต่อทางเพศแล้ว ยังช่วยลดความเสี่ยงของการตั้งครรภ์ที่ไม่ได้วางแผน ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมการป้องกันที่ดีที่สุดมักเป็นการใช้ PrEP ร่วมกับถุงยางอนามัย
ประสบการณ์การใช้ Tenof EM จากผู้ใช้จริงส่วนใหญ่สะท้อนว่าเป็นยาที่ใช้ได้ง่าย ผลข้างเคียงที่พบมักเป็นเพียงเล็กน้อย เช่น เวียนศีรษะหรือคลื่นไส้ในช่วงแรก และหายไปเองเมื่อร่างกายปรับตัว ทำให้ผู้ใช้จำนวนมากยังคงใช้ต่อเนื่องเพื่อป้องกัน HIV
ด้านงานวิจัยทางการแพทย์ หลายการศึกษายืนยันว่า Tenof EM สามารถลดความเสี่ยงการติดเชื้อ HIV ได้มากกว่า 90% เมื่อใช้สม่ำเสมอตามคำแนะนำ ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมยานี้จึงถูกใช้เป็นมาตรฐาน PrEP ทั่วโลก
เสียงจากผู้ใช้จริงบวกกับหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ช่วยตอกย้ำความเชื่อมั่นว่า Tenof EM เป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพสำหรับผู้ที่ต้องการลดความเสี่ยง HIV
ราคา Tenof EM ที่ Safe clinic 1,000 บาท และที่ Safe Clinic เรามีบริการตรวจเลือด ประเมินสุขภาพ และจ่ายยา Tenof EM ภายใต้การดูแลของทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้มั่นใจว่าผู้รับบริการจะได้รับการดูแลอย่างครบถ้วนและปลอดภัย
หากสนใจเริ่มใช้ PrEP หรือสอบถามรายละเอียดเรื่องราคา สามารถติดต่อเพื่อ นัดหมายปรึกษาแพทย์กับ Safe Clinic ได้ทันที คลิกจองคิวออนไลน์
Tenof EM ที่จำหน่ายในคลินิกหรือโรงพยาบาลเป็นยาที่ผ่านการรับรองจาก อย. มีมาตรฐานการผลิตที่ตรวจสอบได้ และอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ แต่ในปัจจุบันมี Tenof EM แบบ generic และยาที่ขายผ่านออนไลน์จำนวนมาก ซึ่งอาจมีคุณภาพไม่สม่ำเสมอหรือเสี่ยงเป็นยาปลอม
ยา generic ที่ขึ้นทะเบียนถูกต้องสามารถใช้ได้จริง แต่การซื้อผ่านช่องทางที่ไม่ชัดเจน เช่น ร้านค้าออนไลน์ หรือผู้ขายที่ไม่ใช่บุคลากรทางการแพทย์ อาจทำให้เสี่ยงได้รับยาที่ไม่ได้มาตรฐาน ส่งผลต่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพของ PrEP
ปัจจุบันมียา PrEP หลายชนิด เช่น Tenof EM, Descovy (TAF/FTC) และ PrEP แบบฉีด Cabotegravir โดยแต่ละชนิดมีข้อดีและข้อจำกัดที่แตกต่างกัน
การเลือก PrEP ที่เหมาะสมขึ้นกับปัจจัยด้านสุขภาพ ไลฟ์สไตล์ และงบประมาณของแต่ละคน ดังนั้นการปรึกษาแพทย์จึงสำคัญเพื่อเลือกแนวทางที่ปลอดภัยและตอบโจทย์ที่สุด
Tenof EM ต้องกินตลอดชีวิตหรือไม่?
ไม่จำเป็น ยานี้ใช้เพื่อป้องกันในช่วงที่มีความเสี่ยง หากความเสี่ยงลดลงหรือหมดไป สามารถหยุดได้ภายใต้คำแนะนำของแพทย์
ถ้าลืมกิน Tenof EM ต้องทำอย่างไร?
หากเพิ่งลืมไม่นานให้รีบกินทันที แต่ถ้าใกล้ถึงเวลามื้อถัดไป ให้กินตามเวลาปกติ ห้ามกินเกินขนาดเพื่อชดเชย
Tenof EM ใช้ได้กับผู้หญิงหรือไม่?
ได้ ผู้หญิงสามารถใช้ PrEP ได้ แต่ควรอยู่ภายใต้การดูแลแพทย์ โดยเฉพาะในช่วงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
Tenof EM ป้องกันโรคติดต่อทางเพศอื่นได้หรือไม่?
ไม่ได้ ยานี้ป้องกันได้เฉพาะ HIV เท่านั้น ยังควรใช้ถุงยางอนามัยเพื่อป้องกันโรคติดต่อทางเพศอื่น ๆ และการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์
ต้องตรวจเลือดบ่อยแค่ไหนขณะใช้ Tenof EM?
ควรตรวจ HIV ซ้ำทุก 3 เดือน และตรวจการทำงานของไตและตับตามที่แพทย์แนะนำ
Tenof EM เป็นยา PrEP ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลว่ามีประสิทธิภาพสูง ปลอดภัยเมื่อใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์ และยังคงเป็นตัวเลือกหลักสำหรับผู้ที่ต้องการลดความเสี่ยงจาก HIV
อย่างไรก็ตาม การใช้ยาไม่ใช่เรื่องที่ควรตัดสินใจเอง ควรผ่านการตรวจสุขภาพและรับคำแนะนำจากแพทย์ก่อนเริ่มเสมอ หากคุณกำลังมองหาความมั่นใจในการเริ่ม PrEP Safe Clinic พร้อมให้บริการตรวจเลือด ประเมินสุขภาพ และจ่ายยาอย่างถูกต้องตามมาตรฐาน
หากต้องการนัดหมายเข้ารับบริการหรือต้องการปรึกษาเพิ่มเติม
สามารถจองคิวผ่านเว็บไซต์ หรือ Inbox ทางช่องทาง Social Media ต่างๆ ได้ด้านล่างนี้