โรคยูเรียพลาสมา เป็นเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่งที่หลายคนอาจไม่คุ้นชื่อ แต่จากข้อมูลทางการแพทย์พบว่า 7 ใน 10 คนที่มีเชื้อนี้อาจไม่รู้ตัวว่าติดเชื้ออยู่ เพราะเป็นเชื้อที่ ไม่มีอาการชัดเจนในช่วงแรก หรือไม่มีอาการเลยในบางราย อย่างไรก็ตาม หากปล่อยให้เชื้อสะสม หรือเกิดการติดเชื้อเรื้อรัง → อาจนำไปสู่ อาการผิดปกติทางระบบทางเดินปัสสาวะและระบบสืบพันธุ์ หรือแม้กระทั่ง ภาวะมีบุตรยาก ในทั้งผู้หญิงและผู้ชายได้
Ureaplasma สามารถ แพร่เชื้อผ่านทางเพศสัมพันธ์ หรือในบางกรณี ถ่ายทอดจากแม่สู่ลูกขณะคลอด ได้เช่นกัน การรู้จัก วิธีตรวจ การรักษา และการป้องกันที่ถูกต้อง จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยลดความเสี่ยง และดูแลสุขภาพในระยะยาวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จัก Ureaplasma แบบครบทุกมุมมอง ตั้งแต่ การติดเชื้อเกิดขึ้นได้อย่างไร อาการเป็นแบบไหน มีผลต่อภาวะมีบุตรยากจริงหรือไม่ ต้องตรวจหรือไม่ รักษาอย่างไร และจะดูแลตัวเองอย่างไรเพื่อป้องกันไม่ให้ติดเชื้อซ้ำ
Ureaplasma เป็นเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่งที่พบได้ในระบบทางเดินปัสสาวะและอวัยวะสืบพันธุ์ของมนุษย์ โดยเป็นเชื้อที่จัดอยู่ในกลุ่ม Mycoplasma ซึ่งมีลักษณะพิเศษคือ ไม่มีผนังเซลล์ (cell wall) จึงทำให้แตกต่างจากแบคทีเรียทั่วไป และมีความทนทานต่อยาปฏิชีวนะบางชนิด
ตามปกติแล้ว Ureaplasma สามารถอยู่ในร่างกายโดยไม่ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพใด ๆ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ที่มีภูมิคุ้มกันแข็งแรง อย่างไรก็ตาม หากเชื้อมีปริมาณมากเกินไปหรือเกิดการติดเชื้อขึ้นจริง อาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินปัสสาวะ ระบบสืบพันธุ์ และในบางกรณียังอาจส่งผลต่อภาวะเจริญพันธุ์ได้ด้วย
ในทางการแพทย์ Ureaplasma ที่เกี่ยวข้องกับมนุษย์มีอยู่ 2 ชนิดหลัก ได้แก่
ทั้งสองชนิดนี้สามารถพบได้ในบุคคลที่สุขภาพปกติ รวมถึงในคู่สมรสหรือคู่รัก โดยอาจไม่แสดงอาการใด ๆ แต่หากเกิดการติดเชื้อ เชื้อเหล่านี้สามารถเป็นสาเหตุของโรคหรือภาวะแทรกซ้อนในระบบสืบพันธุ์ได้
เนื่องจาก Ureaplasma ไม่มีผนังเซลล์ จึงมีความแตกต่างจากแบคทีเรียชนิดอื่น ๆ เช่น
ลักษณะเหล่านี้ทำให้การตรวจหาเชื้อและการรักษาต้องใช้วิธีเฉพาะทาง
เชื้อ Ureaplasma เป็นเชื้อที่สามารถถ่ายทอดจากคนหนึ่งสู่อีกคนหนึ่งได้ โดยมีช่องทางการติดเชื้อหลัก ๆ ดังนี้:
การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัย เป็นช่องทางหลักที่ทำให้เชื้อ Ureaplasma แพร่กระจาย ทั้งในรูปแบบ
เชื้อสามารถแพร่ได้ผ่าน:
หญิงตั้งครรภ์ที่มีเชื้อ Ureaplasma อาจถ่ายทอดเชื้อไปสู่ทารกได้ระหว่างการคลอดทางช่องคลอด ทารกที่ได้รับเชื้อ อาจมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ หรือเกิดภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ โดยเฉพาะในทารกคลอดก่อนกำหนด
ในบางกรณี (พบได้น้อย) การติดเชื้อ Ureaplasma อาจเกิดจากการปนเปื้อนของเครื่องมือแพทย์ที่ไม่สะอาด หรือกระบวนการตรวจ/รักษาทางการแพทย์ที่ไม่ได้มาตรฐาน
หนึ่งในความน่ากังวลของ Ureaplasma คือ เชื้อนี้สามารถอยู่ในร่างกายได้โดยไม่แสดงอาการ
Ureaplasma เป็นเชื้อที่มีลักษณะพิเศษคือ ผู้ติดเชื้อจำนวนมากจะไม่มีอาการ โดยเฉพาะในระยะเริ่มแรก หรือเมื่อปริมาณเชื้อในร่างกายยังไม่สูง จากข้อมูลทางการแพทย์ พบว่า ประมาณ 70% ของผู้ที่มีเชื้อ ไม่รู้ว่าตนเองติดเชื้อ (asymptomatic carrier)
อย่างไรก็ตาม หากเกิดการติดเชื้อจริง หรือเชื้อเพิ่มจำนวนมากขึ้น จนก่อให้เกิด การอักเสบในระบบทางเดินปัสสาวะหรือระบบสืบพันธุ์ อาจพบอาการดังต่อไปนี้:
หมายเหตุ
แม้ว่าเชื้อ Ureaplasma จะจัดเป็นเชื้อที่พบได้ทั่วไปในระบบสืบพันธุ์ของมนุษย์ และผู้ติดเชื้อจำนวนมากอาจ ไม่มีอาการ หรือไม่ทราบว่าตนเองมีเชื้อ
แต่ในบางกรณี หากเกิดการติดเชื้อจริง หรือปล่อยให้เชื้อเพิ่มจำนวนมากขึ้นโดยไม่ได้รับการดูแลรักษาอย่างเหมาะสม เชื้อนี้สามารถก่อให้เกิด ภาวะแทรกซ้อนหรือปัญหาสุขภาพที่รุนแรงได้
แม้ Ureaplasma จะไม่ใช่เชื้อที่ก่อโรครุนแรงในทุกคน แต่ในบางกลุ่ม เช่น
→ การปล่อยให้เชื้อสะสมในร่างกายโดยไม่รับการดูแล อาจนำไปสู่ ภาวะแทรกซ้อนที่กระทบต่อคุณภาพชีวิต ได้อย่างมีนัยสำคัญ
เชื้อ Ureaplasma แม้จะเป็นเชื้อที่พบได้ทั่วไปในระบบสืบพันธุ์ของมนุษย์ แต่หากเกิดการติดเชื้อเรื้อรังหรือมีการอักเสบที่ไม่แสดงอาการ → อาจส่งผลกระทบต่อ ภาวะมีบุตรยาก ได้อย่างมีนัยสำคัญ ทั้งใน ผู้หญิงและผู้ชาย
1 กระตุ้นการอักเสบเรื้อรัง เมื่อ Ureaplasma ติดเชื้อในระบบสืบพันธุ์ → ร่างกายจะตอบสนองด้วยการอักเสบ
2 ความเสียหายต่อเยื่อบุผิวท่อนำไข่ การอักเสบเรื้อรังอาจทำให้ เยื่อบุท่อนำไข่ถูกทำลายหรือเกิดพังผืด → ทำให้ไข่ไม่สามารถเคลื่อนที่ได้ตามปกติ → ลดโอกาสปฏิสนธิ
3 ส่งผลต่อการฝังตัวของตัวอ่อน หากมีเชื้อ Ureaplasma ในโพรงมดลูก → อาจรบกวนกระบวนการฝังตัวของตัวอ่อน → เพิ่มโอกาส การฝังตัวล้มเหลว หรือเกิดภาวะแท้งในระยะเริ่มต้น
4 ลดคุณภาพอสุจิ ในผู้ชาย เชื้อ Ureaplasma อาจส่งผลต่อ
เพิ่มโอกาสเกิดการติดเชื้อซ้ำ → ภาวะเรื้อรัง การติดเชื้อ Ureaplasma ซ้ำ ๆ → เพิ่มโอกาสเกิดภาวะเรื้อรังในระบบสืบพันธุ์ → เมื่อมีการอักเสบเรื้อรังต่อเนื่อง → โอกาสมีบุตรตามธรรมชาติจะลดลงเรื่อย ๆ
Ureaplasma เป็นเชื้อที่สามารถพบได้ใน ช่องคลอดและปากมดลูก ของหญิงตั้งครรภ์บางราย โดยในหลายกรณีอาจ ไม่มีอาการ และไม่ก่อให้เกิดปัญหา แต่หากเชื้อมีปริมาณสูง หรือมีการอักเสบร่วมด้วย → อาจเพิ่ม ความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนในการตั้งครรภ์ และผลกระทบต่อทารกในครรภ์ได้
ผู้ชายสามารถติดเชื้อ Ureaplasma ได้
หากมีอาการ → มักพบอาการต่อไปนี้:
หมายเหตุ
แม้ว่า Ureaplasma จะเป็นเชื้อที่พบได้ในคนทั่วไป แต่หากมีข้อสงสัยว่าติดเชื้อ หรือมีอาการผิดปกติ → การตรวจวินิจฉัยอย่างถูกต้องจึงเป็นขั้นตอนสำคัญ การตรวจ Ureaplasma ต้องใช้วิธีเฉพาะทาง → เนื่องจากเชื้อนี้มีลักษณะพิเศษคือ ไม่มีผนังเซลล์ ทำให้ไม่สามารถตรวจด้วยวิธีปกติ เช่นการย้อมสีแกรม (Gram stain) ได้
หมายเหตุ
สำหรับผู้ที่กำลังวางแผน ตรวจหาเชื้อ Ureaplasma → ไม่ว่าจะด้วยเหตุผล
การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการตรวจอย่างถูกต้อง จะช่วยให้ผลตรวจแม่นยำ และลดโอกาสเกิดผลลบลวง (False Negative)
เมื่อได้รับการวินิจฉัยว่าติดเชื้อ Ureaplasma → การรักษาที่ถูกต้องและเหมาะสมจะช่วย ลดภาวะแทรกซ้อน และป้องกันการแพร่เชื้อให้ผู้อื่น แม้ว่า Ureaplasma จะเป็นเชื้อที่สามารถอยู่ในร่างกายโดยไม่แสดงอาการ แต่ในกรณีที่มี
ระยะเวลาในการรักษาเชื้อ Ureaplasma → ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น
โดยทั่วไป → การรักษาจะใช้เวลาประมาณ 7-14 วัน → แต่ในบางกรณีอาจต้องใช้เวลานานกว่านั้น โดยเฉพาะหากมี การติดเชื้อเรื้อรัง หรือ มีการดื้อยา
แม้ว่าการรักษาเชื้อ Ureaplasma จะให้ผลดีในหลายราย แต่ก็ยังมีโอกาสเกิด การติดเชื้อซ้ำ (Reinfection) ได้ในบางกรณี โดยเฉพาะในกลุ่มที่มี ปัจจัยเสี่ยงต่อการติดเชื้อซ้ำ เช่น
สามารถติดเชื้อซ้ำได้ → ไม่ได้หมายความว่ารักษาไม่หาย แต่เกิดจากการ ได้รับเชื้อใหม่ จาก
“ไม่ควรรักษาเอง” การรักษาเชื้อ Ureaplasma ควรได้รับการวินิจฉัยและดูแลโดย แพทย์เฉพาะทาง เท่านั้น ด้วยเหตุผลสำคัญดังนี้:
หลังได้รับการรักษาเชื้อ Ureaplasma จนเสร็จสิ้น → การดูแลตัวเองอย่างเหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อ:
แม้ว่าเชื้อ Ureaplasma จะสามารถพบได้ในคนทั่วไป และบางคนอาจไม่มีอาการ แต่หากติดเชื้อในระดับที่ก่อให้เกิดโรค → อาจมีผลกระทบต่อ สุขภาพทางเดินปัสสาวะ ระบบสืบพันธุ์ และภาวะมีบุตรยาก ได้
การป้องกันตั้งแต่แรกจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ
ช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ Ureaplasma ได้ → แต่ ไม่สามารถป้องกันได้ 100%
Ureaplasma เป็นเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่งที่มีลักษณะเฉพาะตัว แตกต่างจาก แบคทีเรียทั่วไป และจาก เชื้อก่อโรคทางเพศสัมพันธ์ (STI) อื่น ๆ ในหลายด้าน ความเข้าใจจุดแตกต่างนี้ จะช่วยให้เรา เข้าใจธรรมชาติของเชื้อ และ เลือกวิธีการตรวจและรักษาได้เหมาะสม
Ureaplasma แม้จะเป็นเชื้อที่พบได้ในคนทั่วไป และหลายรายอาจไม่มีอาการ แต่หากปล่อยให้เชื้อสะสมหรือมีการติดเชื้อเรื้อรัง → อาจนำไปสู่ ปัญหาสุขภาพที่สำคัญ เช่น
ข้อดีคือ Ureaplasma สามารถตรวจพบและรักษาได้ หากได้รับการดูแลอย่างถูกต้องตั้งแต่ต้น
การ ตรวจสุขภาพเป็นระยะ โดยเฉพาะในกลุ่มที่มีความเสี่ยง → เป็นกุญแจสำคัญในการป้องกันภาวะแทรกซ้อนในระยะยาว
ไม่ควรมองข้ามเชื้อ Ureaplasma → เพราะถึงแม้จะเป็น “เชื้อเงียบ” ที่หลายคนไม่รู้ตัวว่าติดเชื้อ แต่หากรู้จักดูแลสุขภาพ และเข้ารับการตรวจรักษาอย่างเหมาะสม → ก็สามารถป้องกันและลดความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
หากต้องการนัดหมายเข้ารับบริการหรือต้องการปรึกษาเพิ่มเติม
สามารถจองคิวผ่านเว็บไซต์ หรือ Inbox ทางช่องทาง Social Media ต่างๆ ได้ด้านล่างนี้