ในยุคที่คนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญกับสุขภาพทางเพศมากขึ้น การป้องกัน HIV ไม่ได้มีเพียงถุงยางอนามัยเท่านั้น แต่ยังมีอีกหนึ่งทางเลือกที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก นั่นคือ PrEP (Pre-Exposure Prophylaxis) และเมื่อพูดถึงคำว่า On PrEP หมายถึงการที่บุคคลหนึ่งกำลังใช้ PrEP อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ระดับยาในร่างกายเพียงพอในการป้องกันการติดเชื้อ
ในปี 2025 การอยู่ On PrEP กลายเป็นเรื่องที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น ทั้งในกลุ่มชายรักชาย ผู้หญิง คู่ต่างเพศ วัยรุ่น ไปจนถึงคู่รักต่างสถานะ On PrEP จึงไม่ใช่แค่เรื่องของการกินยา แต่เป็นการดูแลสุขภาพและสร้างความมั่นใจในทุกความสัมพันธ์
On PrEP หมายถึงการใช้ยา PrEP (Pre-Exposure Prophylaxis) อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ระดับยาสะสมในร่างกายเพียงพอในการป้องกันเชื้อ HIV ก่อนที่จะเกิดการสัมผัสเชื้อจริง ยิ่งใช้สม่ำเสมอ ประสิทธิภาพยิ่งสูง โดยงานวิจัยและแนวทางสากล เช่น CDC และ WHO ระบุว่า หากใช้ถูกต้องสามารถลดความเสี่ยงจากเพศสัมพันธ์ได้มากกว่า 90–99%
ในปี 2025 On PrEP ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น เพราะคนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพทางเพศ (sexual health) และต้องการความมั่นใจในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะมีคู่นอนประจำหรือไม่ประจำ รวมถึงผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงเลือกใช้ On PrEP เป็นทางเลือกป้องกัน HIV ระยะยาวที่มีหลักฐานรองรับทางการแพทย์
คำว่า PrEP หมายถึงการใช้ยาป้องกันการติดเชื้อ HIV ก่อนสัมผัสเชื้อ แต่เมื่อพูดว่า On PrEP จะเน้นถึงการที่บุคคลนั้น “กำลังใช้ PrEP อย่างต่อเนื่อง” อยู่จริงในชีวิตประจำวัน ไม่ใช่เพียงการรู้จักหรือการตั้งใจจะเริ่มใช้
การอยู่ “On PrEP” จึงหมายถึง
สรุปคือ PrEP = แนวคิด/วิธีป้องกัน ส่วน On PrEP = การปฏิบัติจริงที่กำลังเกิดขึ้น และความแตกต่างนี้สำคัญต่อประสิทธิภาพการป้องกัน HIV
การใช้ PrEP มีหลายรูปแบบเพื่อให้เหมาะกับพฤติกรรมและไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน ได้แก่:
การเลือกวิธีขึ้นอยู่กับพฤติกรรมเสี่ยง ความสะดวก และคำแนะนำจากแพทย์ เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพการป้องกัน HIV ที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคลมากที่สุด
การใช้ On PrEP เหมาะสำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ HIV ในชีวิตประจำวันหรือในบางช่วงเวลา โดยกลุ่มที่ควรพิจารณา ได้แก่:
การตัดสินใจใช้ On PrEP ควรอยู่บนพื้นฐานของพฤติกรรม ความเสี่ยงส่วนตัว และคำแนะนำจากแพทย์ เพื่อความเหมาะสมของแต่ละบุคคล
คู่รักต่างสถานะ หรือ Serodiscordant Couple หมายถึงคู่ที่ฝ่ายหนึ่งติดเชื้อ HIV และอีกฝ่ายไม่ติดเชื้อ ความกังวลหลักคือความเสี่ยงของการถ่ายทอดเชื้อระหว่างมีเพศสัมพันธ์
On PrEP จึงกลายเป็นทางเลือกสำคัญสำหรับคู่รักกลุ่มนี้ เพราะ:
อย่างไรก็ตาม การใช้ On PrEP ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ พร้อมตรวจสุขภาพและติดตามผลอย่างสม่ำเสมอ เพื่อความปลอดภัยสูงสุดทั้งสองฝ่าย
แม้ PrEP จะถูกพูดถึงบ่อยในกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย (MSM) แต่ในความเป็นจริง ผู้หญิงและคู่ต่างเพศ ก็สามารถได้รับประโยชน์จากการใช้ On PrEP เช่นกัน โดยเฉพาะในสถานการณ์เหล่านี้:
การใช้ On PrEP ในผู้หญิงและคู่ต่างเพศควรอยู่ภายใต้คำแนะนำแพทย์ พร้อมตรวจสุขภาพและติดตามผลอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจว่าได้รับการป้องกันอย่างเหมาะสม
ปัจจุบันแนวทางสากล เช่น WHO และ CDC ระบุว่า วัยรุ่นอายุ 15 ปีขึ้นไป และมีน้ำหนัก ≥35 กิโลกรัม สามารถใช้ PrEP ได้ หากอยู่ในกลุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อ HIV การเข้าถึง On PrEP ในวัยรุ่นจึงมีความสำคัญ เพราะช่วยลดความเสี่ยงและส่งเสริมการดูแลสุขภาพทางเพศตั้งแต่เนิ่น ๆ
กรณีที่มักแนะนำให้วัยรุ่นพิจารณา On PrEP ได้แก่:
ทั้งนี้ วัยรุ่นควรได้รับการประเมินและติดตามโดยแพทย์ พร้อมทั้งมีการให้คำปรึกษาด้านเพศศึกษาและสุขภาพจิตควบคู่กันไป
การใช้ PrEP ในหญิงตั้งครรภ์และหญิงให้นมบุตรได้รับการศึกษาและระบุในแนวทางของ WHO ว่า สามารถใช้ได้ภายใต้การดูแลของแพทย์ โดยมีเป้าหมายเพื่อป้องกันการติดเชื้อ HIV ให้กับมารดา และลดความเสี่ยงการถ่ายทอดไปยังทารก
สถานการณ์ที่มักพิจารณา On PrEP ได้แก่:
ก่อนเริ่มใช้ PrEP แพทย์จะทำการตรวจเลือด ตรวจการทำงานของไต และติดตามสุขภาพของแม่และทารกอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยทั้งสองฝ่าย
การอยู่ On PrEP ไม่ได้มีผลเพียงด้านร่างกาย แต่ยังเกี่ยวข้องกับ สุขภาพจิต ของผู้ใช้ด้วย หลายคนที่มีความกังวลเรื่อง HIV หรือกลัวการมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ปลอดภัย พบว่าการใช้ PrEP อย่างต่อเนื่องช่วยลดความเครียดและเพิ่มความมั่นใจในชีวิตประจำวัน
อย่างไรก็ตาม บางคนอาจเผชิญกับความรู้สึก stigma หรือการตีตราจากสังคม เมื่อคนรอบข้างไม่เข้าใจการใช้ยา PrEP จึงควรมีการให้คำปรึกษาและการสนับสนุนทางจิตใจควบคู่ไปด้วย เพื่อให้การใช้ On PrEP เป็นประสบการณ์ที่ทั้งปลอดภัยและส่งเสริมคุณภาพชีวิตในระยะยาว
ในกลุ่มที่มีการใช้สารกระตุ้นหรือสารเสพติดระหว่างมีเพศสัมพันธ์ (chemsex) ความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ HIV และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์จะสูงขึ้น เนื่องจากอาจมีการมีคู่นอนหลายคน การไม่ใช้ถุงยาง หรือการลืมกินยา PrEP ตรงเวลา
การอยู่ On PrEP จึงมีบทบาทสำคัญในการลดความเสี่ยงในกลุ่มนี้ โดยช่วยให้ร่างกายมีระดับยาป้องกันที่เพียงพอ อย่างไรก็ตาม PrEP ไม่สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่น ๆ ได้ ผู้ใช้ chemsex จึงควร:
สำหรับผู้ที่เดินทางบ่อยหรือชอบท่องเที่ยว การอยู่ On PrEP ช่วยเพิ่มความมั่นใจเมื่อต้องพบเจอสถานการณ์ใหม่ ๆ แต่สิ่งที่ควรคำนึงถึงคือการจัดการยาและการปฏิบัติตามกฎหมายของแต่ละประเทศ
ข้อควรระวังสำหรับนักเดินทางที่ใช้ On PrEP ได้แก่:
ก่อนเริ่มใช้ On PrEP แพทย์จะทำการตรวจสุขภาพเพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพของยา โดยมักประกอบด้วย:
ขั้นตอนเหล่านี้ช่วยให้แพทย์วางแผนการใช้ On PrEP ได้อย่างเหมาะสมและติดตามความปลอดภัยในระยะยาว
แม้ว่า On PrEP จะช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ HIV ได้สูงมาก แต่ ไม่ได้ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่น (STIs) เช่น ซิฟิลิส หนองใน คลามัยเดีย หรือหูดหงอนไก่ นอกจากนี้ยังไม่สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้
ดังนั้น การใช้ถุงยางอนามัยร่วมกับ On PrEP จึงยังเป็นสิ่งสำคัญ เพราะ:
การใช้ PrEP ควบคู่กับถุงยางจึงถือเป็นแนวทางที่ปลอดภัยและครบถ้วนที่สุด
โดยทั่วไป On PrEP เป็นยาที่ทนต่อได้ดี แต่บางคนอาจพบ ผลข้างเคียงชั่วคราว ในช่วงเริ่มใช้ยา เช่น:
อาการเหล่านี้มักหายไปเองภายในไม่กี่สัปดาห์เมื่อร่างกายปรับตัวกับยา สำหรับการใช้ระยะยาว แพทย์จะติดตามการทำงานของไตและตรวจเลือดเป็นระยะ เพื่อให้มั่นใจว่าปลอดภัยต่อสุขภาพในระยะยาว
หากพบอาการผิดปกติรุนแรง ควรหยุดยาและปรึกษาแพทย์ทันที
การลืมกินยา On PrEP อาจลดประสิทธิภาพการป้องกัน HIV ได้ ขึ้นอยู่กับความถี่และเวลาที่ลืม โดยแนวทางทั่วไปคือ:
สำหรับผู้ใช้สูตร On-Demand (2+1+1) การลืมยาอาจมีผลมากกว่า ควรขอคำแนะนำเฉพาะจากแพทย์เพื่อความปลอดภัยสูงสุด
On PrEP ต้องกินยากี่วันถึงจะเริ่มป้องกันได้?
PrEP ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่น ๆ ได้หรือไม่?
ไม่ได้ ป้องกันเฉพาะ HIV เท่านั้น จำเป็นต้องใช้ถุงยางร่วมด้วยเพื่อป้องกัน STIs
On PrEP ต้องตรวจเลือดบ่อยแค่ไหน?
ควรตรวจ HIV ทุก 3 เดือน และตรวจการทำงานของไตทุก 6 เดือน ตามคำแนะนำแพทย์
ผู้หญิงสามารถใช้ On PrEP ได้หรือไม่?
ใช้ได้ โดยเฉพาะผู้ที่มีคู่นอนเสี่ยงสูง หรืออยู่ในพื้นที่ที่มีอัตราการติดเชื้อสูง แต่ต้องอยู่ภายใต้การดูแลแพทย์
การอยู่ On PrEP ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของการกินยาป้องกัน HIV เท่านั้น แต่ยังเป็นการลงทุนเพื่อสุขภาพทางเพศและคุณภาพชีวิตในระยะยาว ผู้ที่ใช้ On PrEP อย่างสม่ำเสมอจะได้รับทั้ง การป้องกันที่มีหลักฐานรองรับทางการแพทย์ และ ความมั่นใจในความสัมพันธ์ มากขึ้น
การตัดสินใจเริ่ม On PrEP ควรทำร่วมกับแพทย์ เพื่อเลือกรูปแบบการใช้ที่เหมาะสม ตรวจสุขภาพอย่างต่อเนื่อง และใช้วิธีป้องกันอื่น ๆ เช่น การใส่ถุงยาง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ครอบคลุมและปลอดภัยที่สุด
หากต้องการนัดหมายเข้ารับบริการหรือต้องการปรึกษาเพิ่มเติม
สามารถจองคิวผ่านเว็บไซต์ หรือ Inbox ทางช่องทาง Social Media ต่างๆ ได้ด้านล่างนี้